12/10/2025

MongGame.com

เกาะติดทุกเกมฟุตบอล พร้อมบทวิเคราะห์เจาะลึก กับมุมมองที่เหนือกว่า

วิเคราะห์ก่อนเกม: เชลซี พบ ลิเวอร์พูล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วิเคราะห์ก่อนเกม: เชลซี พบ ลิเวอร์พูล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วิเคราะห์ก่อนเกม เชลซี พบ ลิเวอร์พูล

เกมบิ๊กแมตช์แห่งลอนดอนเมอร์ซีย์ไซด์ เชลซีเปิดสแตมฟอร์ดบริดจ์ต้อนรับแชมป์เก่า ลิเวอร์พูล ในวันเสาร์ที่ 4 ตุลาคม 2025 เวลา 23:30 น. ตามเวลาไทย (17:30 น. BST) ความสำคัญคือฟอร์มแกว่งของทั้งสองทีมในสัปดาห์ล่าสุดเชลซีต้องการยืนระยะในบ้าน ขณะที่ลิเวอร์พูลของอาร์เน่ สลอตต้องรีบเด้งกลับหลังแพ้สองนัดติดในลีกและยุโรป แมตช์นี้อาจส่งผลต่อความมั่นใจและอันดับหัวตารางอย่างยิ่งยวดในเดือนตุลาคมนี้. พรีเมียร์ลีก

ฟอร์มทีมล่าสุด

เชลซี – 5 นัดหลังทุกรายการ: ชนะ 2, เสมอ 1, แพ้ 2

  • ล่าสุดเชือดเบนฟิก้า 1-0 (UCL) คืนความมั่นใจหลังแพ้ไบรท์ตัน 1-3 และตกรอบคาราบาวคัพที่ลินคอล์น 1-2 ก่อนหน้านั้นแพ้แมนฯ ยูไนเต็ด 1-2 และแพ้บาเยิร์น 1-3 ในยุโรป นัดนี้ได้เปรียบเล่นในบ้าน แต่ยังมีปัญหาวินัย/สมาธิช่วงท้ายเกมและใบแดง-อาการเจ็บรบกวนบางตำแหน่ง โดยปัจจุบันระบุในสื่อว่าอยู่อันดับกลางบนของตาราง

ลิเวอร์พูล – 5 นัดหลังทุกรายการ: ชนะ 3, แพ้ 2

  • เพิ่งแพ้รวด 2 เกม (แพ้คริสตัล พาเลซ 1-2, แพ้กาลาตาซาราย 0-1) หลังจากชนะเอฟเวอร์ตัน 2-1, บิร์นลีย์ 1-0 และอาร์เซน่อล 1-0 ฟอร์มโดยรวมยังดูแน่น แต่ความมั่นใจสะดุดและมีข่าวอาการเจ็บของ อลิสซอน ที่อาจชวดเฝ้าเสา ทำให้ต้องจับตาแผงหลังและผู้รักษาประตูมือรองในเกมใหญ่

นักเตะเด่น

เชลซี

  • เอ็นโซ่ แฟร์นานเดซ: ผลงานเด่นและยิงสม่ำเสมอ เป็นหนึ่งในตัวจบสกอร์ของทีมช่วงต้นฤดูกาลนี้ตามสถิติทางการสโมสร/วิกิฤดูกาล 2025/26
  • มอยเซส ไกเซโด: หัวใจแดนกลาง ตัดเกม–เชื่อมเกมสำคัญ (ฟอร์มเด่นแมตช์ชนะเบนฟิก้า)
  • รีซ เจมส์ / มาลู กุสโต้: จุดเปลี่ยนเกมข้างขวา การสลับบทบาทแบ็ก/อินเวิร์ตเติมเกมคือกุญแจของมาเรสก้า

ลิเวอร์พูล

  • โมฮาเหม็ด ซาลาห์: ยังคงเป็นตัวตัดสินเกมใหญ่ ลูกนิ่ง–จบสกอร์เฉียบ (เกมบุกบิร์นลีย์ยิงโทษนาที 95)
  • เวอร์จิล ฟาน ไดค์: ผู้นำแนวรับ เกมรับ–ลูกกลางอากาศคีย์แมนในบิ๊กแมตช์
  • โดมินิค โซบอสซ์ไล: ลูกยิงไกล/ลูกนิ่งสร้างความต่าง (นัดชนะอาร์เซน่อล 1-0)
  • ฮูโก้ เอกิติแก้: ฟอร์มสม่ำเสมอช่วงต้นซีซั่นและเป็นดาวซัลโวสโมสรตามสถิติฤดูกาล 2025/26

แท็คติกและจุดสำคัญ

  • เชลซีของเอนโซ่ มาเรสก้า: เน้นครองบอลเชิงโครงสร้างแบบ 3-2-5 เมื่อขึ้นเกม (แบ็กข้างคนหนึ่งอินเวิร์ตเข้าใน, มิดฟิลด์ยืนบ็อกซ์ 2-2) ใช้การวางตำแหน่งเพื่อดึงไลน์เพรสก่อนแทงช่องว่างฮาล์ฟสเปซให้ตัวรุก วิธีกดดันบน–แย่งบอลคืนเร็วคือคีย์ แต่ต้องระวังเกมสวนกลับหลังเสียบอล รวมถึงวินัยเกมรับหลังใบแดง/ฟาวล์โซนเสี่ยงในนัดก่อน ๆ
  • ลิเวอร์พูลของอาร์เน่ สลอต: ขึ้นเกมเร็วด้วย 4-2-3-1/4-3-3 เพรสซิ่งสูง–เปลี่ยนแกนไว ใช้การวิ่งฉีกของปีกอินไซต์และการเติมไลน์สองของมิดฟิลด์ ตัวจบสกอร์หลักยังเป็นซาลาห์ ขณะที่การไม่มีอลิสซอนอาจทำให้การตั้งลำจากหลังและทรานซิชันรับ–รุกช้าลงเล็กน้อย ต้องอาศัยฟาน ไดค์คุมพื้นที่และโซบอสซ์ไล/มิดฟิลด์สร้างความคมจากนอกกรอบ
  • จุดชี้ขาด
    1. ใครชนะศึกแดนกลาง (เอ็นโซ่–ไกเซโด vs โซบอสซ์ไล+กองกลางหงส์)
    2. ลูกตั้งเตะ/ลูกกลางอากาศ—มีผลมากเมื่อผู้รักษาประตูมือหนึ่งลิเวอร์พูลไม่พร้อม
    3.  ใบเหลือง/แดง: เชลซีเพิ่งพลาดช่วงท้ายเพราะวินัยเกมรับ—ถ้าคุมอารมณ์ได้ เกมจะสูสีขึ้น

เฮดทูเฮด: 10 นัดล่าสุด ที่เคยพบกัน

  1. 04 พ.ค. 2025 เชลซี 3-1 ลิเวอร์พูล
  2. 20 ต.ค. 2024 ลิเวอร์พูล 2-1 เชลซี
  3. 31 ม.ค. 2024 ลิเวอร์พูล 4-1 เชลซี
  4. 13 ส.ค. 2023 เชลซี 1-1 ลิเวอร์พูล
  5. 04 เม.ย. 2023 เชลซี 0-0 ลิเวอร์พูล
  6. 21 ม.ค. 2023 ลิเวอร์พูล 0-0 เชลซี
  7. 02 ม.ค. 2022 เชลซี 2-2 ลิเวอร์พูล
  8. 28 ส.ค. 2021 ลิเวอร์พูล 1-1 เชลซี
  9. 04 มี.ค. 2021 ลิเวอร์พูล 0-1 เชลซี
  10. 20 ก.ย. 2020 เชลซี 0-2 ลิเวอร์พูล

ผลงาน 5 นัดล่าสุด ของแต่ละทีม

เชลซี

  • ชนะ เบนฟิก้า 1-0 (UCL) – 30 ก.ย. 2025
  • แพ้ ไบรท์ตัน 1-3 (พรีเมียร์ลีก) – 27 ก.ย. 2025
  • แพ้ ลินคอล์น 1-2 (คาราบาวคัพ) – 23 ก.ย. 2025
  • แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-2 (พรีเมียร์ลีก) – 20 ก.ย. 2025
  • แพ้ บาเยิร์น 1-3 (UCL) – 17 ก.ย. 2025

ลิเวอร์พูล

  • แพ้ กาลาตาซาราย 0-1 (UCL) – 30 ก.ย. 2025
  • แพ้ คริสตัล พาเลซ 1-2 (พรีเมียร์ลีก) – 27 ก.ย. 2025
  • ชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-1 (พรีเมียร์ลีก) – 20 ก.ย. 2025
  • ชนะ บิร์นลีย์ 1-0 (พรีเมียร์ลีก) – 14 ก.ย. 2025
  • ชนะ อาร์เซน่อล 1-0 (พรีเมียร์ลีก) – 31 ส.ค. 2025

คาดการณ์ผลการแข่งขัน

เชลซี 1-1 ลิเวอร์พูล

  • เหตุผล: ลิเวอร์พูลขาดอลิสซอนลดความนิ่งด่านสุดท้าย ส่วนเชลซีแม้ทรงบอลดีขึ้นจากเกมยุโรป แต่ความต่อเนื่องยังไม่นิ่ง เกมนี้มีโอกาสเห็นเพรสซิ่งแลกกันหนักและมีจังหวะเซ็ตพีซชี้ขาด ทว่าท้ายสุดรูปเกมสูสีและแบ่งแต้มเป็นผลที่เป็นไปได้มากที่สุด

บทสรุป

บิ๊กแมตช์ที่เดิมพันทั้งความมั่นใจและโมเมนตัม เชลซีต้องใช้ความได้เปรียบในบ้านพลิกเสียงเชียร์ให้เป็นพลัง ส่วนลิเวอร์พูลต้องแสดงแชมป์เก่าว่ายังยืดหยุ่นได้แม้ขาดคีย์แมนอย่างอลิสซอน หากคุณชอบบทวิเคราะห์แน่นๆ แบบนี้ ฝากติดตามเราไว้กดติดตาม/บุ๊กมาร์กไว้เลย แล้วเจอกันหลังเกมเพื่อเก็บทุกไฮไลต์และช็อตเชิงแท็คติกที่คุณต้องไม่พลาด