12/10/2025

MongGame.com

เกาะติดทุกเกมฟุตบอล พร้อมบทวิเคราะห์เจาะลึก กับมุมมองที่เหนือกว่า

วิเคราะห์ก่อนเกม: แมนฯ ยูไนเต็ด พบ ซันเดอร์แลนด์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วิเคราะห์ก่อนเกม: แมนฯ ยูไนเต็ด พบ ซันเดอร์แลนด์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วิเคราะห์ก่อนเกม แมนฯ ยูไนเต็ด พบ ซันเดอร์แลนด์

ศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2025/26 สัปดาห์ที่ 7 ที่สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของรูเบน อามอริม เปิดบ้านรับทีมน้องใหม่ไฟแรง ซันเดอร์แลนด์ ของเรอจีส์ เล บรีส์ ในวันเสาร์ที่ 4 ตุลาคม 2025 คิกออฟ 21:00 น. ตามเวลาไทย (15:00 น. สหราชอาณาจักร / 14:00 UTC) เกมนี้ถูกจับตาเป็นพิเศษ เพราะเป็นการพบกันในลีกสูงสุดครั้งแรกตั้งแต่ปี 2017 และเจ้าบ้านกำลังต้องการสามแต้มเรียกศรัทธา ขณะที่ทีมเยือนฟอร์มเหนียวแน่นพร้อมลุ้นแต้มสร้างแรงกระเพื่อมตารางคะแนน. ข้อมูลเวลา–สนามยืนยันโดยทางการของสโมสรและพรีเมียร์ลีก, โดยระบุคิกออฟ 14:00 UTC (เท่ากับ 21:00 น. ไทย) และเวลา UK 15:00 น. ตามโปรแกรมวันเสาร์, ส่วนในสหราชอาณาจักรไม่มีถ่ายทอดสดตามกฎ

ฟอร์มทีมล่าสุด

แมนฯ ยูไนเต็ด (5 นัดหลังสุดทุกรายการ): แพ้ เบรนท์ฟอร์ด 1-3 (เยือน) • ชนะ เชลซี 2-1 (เหย้า) • แพ้ แมนฯ ซิตี้ 0-3 (เยือน) • ชนะ เบิร์นลีย์ 3-2 (เหย้า) • เสมอ กริมสบี้ 2-2 (แพ้จุดโทษ/คาราบาวคัพ) — ฟอร์มเหย้ายังพอมีทีเด็ด แต่ภาพรวมยังแกว่งและเสียประตูง่ายในเกมใหญ่

ซันเดอร์แลนด์ (5 นัดหลังสุดทุกรายการ): ชนะ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 1-0 (เยือน) เสมอ แอสตัน วิลล่า 1-1 (เหย้า) • เสมอ คริสตัล พาเลซ 0-0 (เยือน) • ชนะ เบรนท์ฟอร์ด 2-1 (เหย้า) เสมอ ฮัดเดอร์สฟิลด์ 1-1 (แพ้จุดโทษ/คาราบาวคัพ)เก็บแต้มต่อเนื่อง เกมรับเป็นระบบ ชัดว่า “ทีมเวิร์กมาเต็ม

นักเตะเด่น

แมนฯ ยูไนเต็ด

  • บรูโน่ แฟร์นันด์ส หัวใจเกมรุก สถิติทำแสบใส่ทีมน้องใหม่บ่อยครั้ง และยังเป็นจุดตั้งบอลเซ็ตพีซหลักของทีม
  • คาเซมิโร คืนทีมหลังพ้นโทษแบน เติมความแน่นกลางรับ/ตัดเกม (รายงานทีมข่าวล่าสุด)
  • แนวรับยังไร้ ลิซานโดร มาร์ติเนซ (เข่า) และ นุสซัยร์ มาซราอุย (ต้นขา) ตามรายงานก่อนเกม ขณะที่โครงร่างตัวจริงคาดว่าจะดันวิงแบ็กขึ้นสูงในระบบ 3-4-3/3-4-2-1 ของอามอริม

ซันเดอร์แลนด์

  • กรานิต ชาก้า มิดฟิลด์ประสบการณ์สูง ฟอร์มเด่นทั้งเกมรับ-จ่ายบอล ทางสถิติล่าสุดยังทำแอสซิสต์ต่อเนื่องให้ทีม
  • โนอาห์ ซาดิกี / คริส ริกก์ ให้พลังงานและการเพรสซิ่งในแดนกลาง
  • วิลสัน อิซิดอร์ / เช็มส์ดิน ตัลบี / เอ็นโซ เลอ เฟ สลับบทบาทแนวรุกฉาบฉวยเร็ว
  • ตัวเจ็บ/แบน: ฮาบิบ ดิยาร์ร่า, โรมายน์ มันเดิล, เดนนิส เซอร์กิน, อาจี อเลเซ, เลโอ เฮียดเล ยังพัก และ เรย์นิลโด้ มันดาวา ติดโทษแบนเพิ่ม ส่วน นอร์ดี้ มูกีเล่ ฟิตพร้อมช่วยแนวรับ

แท็คติกและจุดสำคัญของเกม

  • แมนฯ ยูไนเต็ด – ระบบ 3-4-3 / 3-4-2-1 ของรูเบน อามอริม
    จุดเด่นคือการขึ้นเกมไวที่วิงแบ็ก, เพลเมกเกอร์ (บรูโน่) รับบอลระหว่างไลน์เพื่อปล่อยทะลุช่องไปยังกองหน้าความเร็วสูง ข้อกังวลคือทรานซิชันรับที่ยังเปราะ หากจังหวะเพรสแรกพลาด มักเผยให้เห็นพื้นที่ครึ่งช่อง (half-spaces) หน้าสามเซ็นเตอร์ ซึ่งถูกวิจารณ์หนักในเกมพ่ายเบรนท์ฟอร์ดล่าสุด
  • ซันเดอร์แลนด์ – 4-3-3/4-2-3-1 ของเล บรีส์
    เล่นเป็นระบบ เน้นเพรสซิ่งมีวินัย ช่วงรุกใช้สปีดปีกและการเติมชั้นที่สองของกลาง (Xhaka–Sadiki–Rigg) โยกกว้างแล้วแทงหักข้อเข้ากรอบหก หลักคือ “เสียบอลแล้วเพรสกลับทันที” เพื่อตัดคอนเตอร์ของเจ้าบ้าน. ไลน์อัพที่คาด: Roefs; Hume, Mukiele, Alderete, Masuaku; Rigg, Xhaka, Sadiki; Talbi, Isidor, Le Fée

ผลการแข่งขัน 10 นัดล่าสุดที่เคยพบกัน

  1. 9 เม.ย. 2017: ซันเดอร์แลนด์ 0-3 แมนฯ ยูไนเต็ด (พรีเมียร์) – สเตเดี้ยม ออฟ ไลท์
  2. 26 ธ.ค. 2016: แมนฯ ยูไนเต็ด 3-1 ซันเดอร์แลนด์ (พรีเมียร์) – โอลด์ แทรฟฟอร์ด
  3. 13 ก.พ. 2016: ซันเดอร์แลนด์ 2-1 แมนฯ ยูไนเต็ด (พรีเมียร์)
  4. 26 ก.ย. 2015: แมนฯ ยูไนเต็ด 3-0 ซันเดอร์แลนด์ (พรีเมียร์)
  5. 28 ก.พ. 2015: แมนฯ ยูไนเต็ด 2-0 ซันเดอร์แลนด์ (พรีเมียร์)
  6. 24 ส.ค. 2014: ซันเดอร์แลนด์ 1-1 แมนฯ ยูไนเต็ด (พรีเมียร์)
  7. 3 พ.ค. 2014: แมนฯ ยูไนเต็ด 0-1 ซันเดอร์แลนด์ (พรีเมียร์)
  8. 22 ม.ค. 2014: แมนฯ ยูไนเต็ด 2-1 ซันเดอร์แลนด์ (ลีกคัพ รอบรองฯ เลก 2 — ซันเดอร์แลนด์ชนะจุดโทษเข้าชิง)
  9. 7 ม.ค. 2014: ซันเดอร์แลนด์ 2-1 แมนฯ ยูไนเต็ด (ลีกคัพ รอบรองฯ เลก 1)
  10. 5 ต.ค. 2013: ซันเดอร์แลนด์ 1-2 แมนฯ ยูไนเต็ด (พรีเมียร์)

ผลงาน 5 นัดล่าสุดของทั้งสองทีม

แมนฯ ยูไนเต็ด

  1. 27 ก.ย. 2025: แพ้ เบรนท์ฟอร์ด 1-3 (เยือน) – พรีเมียร์ลีก
  2. 20 ก.ย. 2025: ชนะ เชลซี 2-1 (เหย้า) – พรีเมียร์ลีก
  3. 14 ก.ย. 2025: แพ้ แมนฯ ซิตี้ 0-3 (เยือน) – พรีเมียร์ลีก
  4. 30 ส.ค. 2025: ชนะ เบิร์นลีย์ 3-2 (เหย้า) – พรีเมียร์ลีก
  5. 27 ส.ค. 2025: เสมอ กริมสบี้ 2-2 (แพ้จุดโทษ) – คาราบาวคัพ

ซันเดอร์แลนด์

  1. 27 ก.ย. 2025: ชนะ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 1-0 (เยือน) – พรีเมียร์ลีก
  2. 21 ก.ย. 2025: เสมอ แอสตัน วิลล่า 1-1 (เหย้า) – พรีเมียร์ลีก
  3. 13 ก.ย. 2025: เสมอ คริสตัล พาเลซ 0-0 (เยือน) – พรีเมียร์ลีก
  4. 30 ส.ค. 2025: ชนะ เบรนท์ฟอร์ด 2-1 (เหย้า) – พรีเมียร์ลีก
  5. 26 ส.ค. 2025: เสมอ ฮัดเดอร์สฟิลด์ 1-1 (แพ้จุดโทษ) – คาราบาวคัพ

คาดการณ์รูปเกม & จุดตัดสิน

  1. สู้กันที่แดนกลาง – ถ้าแมนฯ ยูฯ ได้คาเซมิโรคุมพื้นที่ พร้อมบรูโน่ปล่อยบอลจังหวะสอง โอกาสคุมเกมจะสูง แต่กองกลางสามตัวของซันเดอร์แลนด์ (ชาก้า–ซาดิกี–ริกก์) เพรสเร็วและอ่านเกมดี มีสิทธิ์ตัดจังหวะตั้งต้นของเจ้าบ้านได้บ่อยครั้ง
  2. วิงแบ็กเจ้าบ้าน vs ช่องโต้กลับทีมเยือน – โครง 3-4-3 ของอามอริมเปิดพื้นที่หลังวิงแบ็กเสมอ ถ้าซันเดอร์แลนด์ฉกฉวยเร็วด้วยปีกและฟูลแบ็กเติมไว มีลุ้นสวนเข้าพื้นที่ครึ่งช่องได้อันตราย
  3. เซ็ตพีซ – ยูไนเต็ดพึ่งพาคุณภาพคิลเลอร์บอลของบรูโน่ได้ ส่วนซันเดอร์แลนด์มีลูกสูตรและคนครอสแม่นอย่างชาก้า—ลูกนิ่งอาจเปลี่ยนสมดุลเกม

ทำนายผลการแข่งขัน

แมนฯ ยูไนเต็ด 1–1 ซันเดอร์แลนด์
เหตุผล: ยูไนเต็ดเล่นในบ้านดีขึ้น แต่ยังมีรอยรั่วทรานซิชันรับ ขณะที่ซันเดอร์แลนด์เป็นทีมบาลานซ์ดีวินัยแน่น เก็บแต้มจากบิ๊กทีมได้ และฟอร์มช่วงหลังไม่แพ้ 4 เกมลีกติด ความคมของบรูโน่/จังหวะสอง อาจช่วยเจ้าบ้านได้อย่างน้อยหนึ่งสกอร์ แต่ทีมเยือนมีวินัยเพียงพอจะเอาคืนจากคอนเตอร์/ลูกนิ่ง

บทสรุป

ศึกที่โอลด์ แทรฟฟอร์ดคืนนี้คือเกมชี้วัดสมดุล รุกจัด–รับแน่น  ของทั้งสองฝั่งแมนฯ ยูไนเต็ดต้องพิสูจน์ว่าระบบ 3-4-3 ของอามอริมสามารถปิดรูรั่วทรานซิชันได้จริงเมื่อเจอเพรสซิ่งเป็นระบบของซันเดอร์แลนด์ ขณะที่ “แมวดำ” ต้องแสดงให้เห็นว่าความมีวินัยและการสลับจังหวะรุกเร็วจากปีกกับจังหวะสองของกลาง สามารถเอาตัวรอดจากแรงกดดัน 90 นาทีในโรงละครแห่งความฝันได้หรือไม่ จุดตัดสินยังคงอยู่ที่ การแย่งพื้นที่ครึ่งช่องหน้าแบ็กโฟร์/สามเซ็นเตอร์, ลูกตั้งเตะที่มีคิลเลอร์พาส และคุณภาพการตัดสินใจในช่วง 15 นาทีต้นท้ายของแต่ละครึ่ง หากยูไนเต็ดรีดความเฉียบคมในพื้นที่สุดท้ายได้ พวกเขามีโอกาสปิดเกม แต่ถ้าซันเดอร์แลนด์รักษาวินัยเกมรับและคมกับจังหวะสวนกลับ เกมนี้อาจจบแบบแชร์แต้มได้ไม่ยาก