12/10/2025

MongGame.com

เกาะติดทุกเกมฟุตบอล พร้อมบทวิเคราะห์เจาะลึก กับมุมมองที่เหนือกว่า

โค้ชวังยิ้ม ไทย U23 ไล่ถลุงมองโกเลีย 6-0 เปิดหัวคัดเอเชียอย่างเร้าใจ

โค้ชวังยิ้ม ไทย U23 ไล่ถลุงมองโกเลีย 6-0 เปิดหัวคัดเอเชียอย่างเร้าใจ

เกมรุกสุดดุดันของช้างศึก U23 ปิดบัญชีทีมเยือนแบบขาดลอย เสกสรรค์ ราตรี ระเบิดแฮตทริก

วันที่ 3 กันยายน 2568 ที่สนามธรรมศาสตร์ สเตเดียม ทีมชาติไทยชุดอายุไม่เกิน 23 ปี เปิดสนามศึกชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือกกลุ่ม F ได้อย่างระเบิดฟอร์ม ด้วยการเอาชนะมองโกเลียไปถึง 6-0 เก็บ 3 แต้มแรกและนำเป็นจ่าฝูงของกลุ่มทันทีในนัดเปิดรอบคัดเลือกการแข่งขันนี้

สรุปเหตุการณ์ในเกม

เกมเริ่มได้เพียงต้นเดียว ไทยได้ประตูขึ้นนำจากการประสานงานแนวรุก — อิคลาส สันหรน ทำประตูแรกให้ทีมอย่างรวดเร็ว ขยับให้เกมเป็น 1-0 ต่อมาเป็น เสกสรรค์ ราตรี ที่เติมเข้าเขตโทษและยิงตามจังหวะทำให้ไทยนำ 2-0 ก่อนที่เสกสรรค์จะมายิงเพิ่มอีกลูกก่อนหมดครึ่งแรกให้ไทยนำ 3-0 ขณะครึ่งหลังไทยยังคงเน้นจังหวะเข้าทำและมาได้อีกสามประตูจากการตามซ้ำและตัวสำรองจนจบเกมที่ 6-0. (ลำดับผู้ทำประตู: อิคลาส, เสกสรรค์ แฮตทริก, ชวัลวิทย์ แซ่เล้า, ยศกร บูรพา) โดยรายงานนัดนี้ระบุรายละเอียดจังหวะและนาทีของแต่ละประตูไว้ครบถ้วน

ฟอร์มทีมล่าสุด ภาพรวมความพร้อมก่อนและหลังเกม

ทีมชาติไทย U23 ภายใต้การคุมทีมของ ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล (โค้ชวัง) แสดงให้เห็นว่าทีมเริ่มจะหาจังหวะการเล่นร่วมกันได้ดีขึ้นหลังโปรแกรมอุ่นเครื่องและการไปเล่นอาเซียนที่ผ่านมา ความเร็วจังหวะเกมรุกและการขยับเติมจากมิดฟิลด์-วิงเกอร์ทำให้ทีมสร้างโอกาสได้ต่อเนื่อง แต่นักเตะยังต้องขยับเรื่องการจบสกอร์ให้คมขึ้นตามที่โค้ชชี้ไว้ ส่วนมองโกเลียในเกมนี้ถูกกดดันตั้งแต่ต้นเกมและแทบไม่มีพื้นที่เล่นเมื่อต้องเจอการเพรสสูงของไทย ผลสะท้อนความต่างชั้นในขณะนี้ แต่ยังต้องให้เครดิตไทยที่รักษาวินัยเกมรับและโรเตชันเพื่อจัดสภาพร่างกายสำหรับสองนัดถัดไป

นักเตะเด่น

ทีมชาติไทย U23

อิคลาส สันหรน นักเตะที่แจ้งเกิดในนามทีมชาติชุดนี้ ยิงประตูแรกตั้งแต่ต้นเกมและแสดงความเร็วกับความแข็งแรงที่เป็นจุดเด่นของเขาในจังหวะโต้กลับ รวมทั้งมุมมองการเล่นที่โค้ชยกให้เป็นผลงานที่ “สอบผ่าน” ในเกมประเดิมสนาม แต่ยังต้องปรับการตัดสินใจบางจังหวะให้เฉียบคมมากขึ้น

เสกสรรค์ ราตรี (กัปตันทีม) เจ้าของแฮตทริกของเกมนี้ ทำงานหนักทั้งการเติมรุกและการเก็บสกอร์ เจาะช่องได้ต่อเนื่องและเป็นคนที่รับผิดชอบจบสกอร์ให้ทีมในหลายจังหวะของเกม

ชวัลวิทย์ แซ่เล้า / ยศกร บูรพา ตัวสำรองที่ลงมาเพิ่มมิติริมเส้นและทำประตู-แอสซิสต์ได้ ช่วยยืนยันว่าทีมมีตัวเลือกเชิงรุกที่ใช้งานได้เมื่อเกมต้องการการเปลี่ยนจังหวะ

ทีมชาติมองโกเลีย U23

มองโกเลียถูกจับให้เล่นรับเป็นส่วนใหญ่ เกมนี้พวกเขาเจอปัญหาเรื่องการต่อบอลและความกระชับแนวรับเมื่อโดนเพรสสูงจากไทย ทำให้มีช่องให้ไทยฉวยโอกาสได้ง่ายขึ้น ช่วงเวลานี้เป็นบทเรียนที่ชัดเจนสำหรับพวกเขาในเรื่องการปรับแท็คติกเมื่อเจอทีมที่เร็วและกดดันสูง

แท็คติกและจุดสำคัญของเกม

ไทยเลือกเน้นการเดินเกมด้านข้างและการเติมจากมิดฟิลด์สูงเพื่อเปิดพื้นที่ให้กองหน้ารอฉีกเส้น แนวรุกของไทยใช้ความเร็วและการเปลี่ยนจังหวะ (one–two, third-man run) ทำให้มองโกเลียเหนื่อยกับการปิดพื้นที่ ส่วนการได้ประตูเร็วตั้งแต่นาทีต้นๆ เป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้เกมเปิดและไทยเล่นได้สบายขึ้น อย่างไรก็ตาม โค้ชวังก็ชี้ชัดว่าการ “จบสกอร์” ยังเป็นเรื่องที่ต้องปรับ แม้สกอร์จะขาดลอยก็ตาม ซึ่งสะท้อนความต้องการพัฒนาคุณภาพเฉียดเส้นให้แน่นอนยิ่งขึ้นเพื่อสู้กับคู่แข่งระดับสูงในรอบต่อไป (การโรเตชันเพื่อลดภาระร่างกายนักเตะก็เป็นประเด็นที่ทีมให้ความสำคัญสำหรับโปรแกรมหนาแน่นนี้)

ความคิดเห็นของกุนซือและนักเตะ

ธวัชชัย (โค้ชวัง) ให้สัมภาษณ์หลังเกมว่า “โอเค เราทำได้ตามเป้าที่วางไว้ คือการเก็บสามแต้ม” แต่ก็เตือนให้ทีม ไม่ประมาท และต้องแก้ไขเรื่องจังหวะจบสกอร์และการเล่นร่วมให้แน่นขึ้น นอกจากนี้โค้ชยังย้ำถึงการโรเตชันเพื่อบริหารความฟิตของนักเตะสำหรับสองนัดถัดไป

อิคลาส สันหรน (แสดงความปลื้มกับการยิงประตูแรกในนามทีมชาติ) ให้สัมภาษณ์เชิงถ่อมตัวว่าให้คะแนนตัวเองประมาณ “7/10” และจะพยายามพัฒนาเรื่องการตัดสินใจในสนามให้ดีขึ้น ท่าทีของเด็กหนุ่มสะท้อนทั้งความมั่นใจและความอยากเรียนรู้เพิ่มเติม

ผลกระทบต่อรอบคัดเลือกและมุมมองอนาคต

ชัยชนะ 6-0 ทำให้ไทยขึ้นนำกลุ่ม F และได้เปรียบศักยภาพเรื่องผลต่างประตู ซึ่งสำคัญในรอบคัดเลือก แต่เส้นทางยังยาว นัดต่อไปทีมไทยจะพบกับเลบานอนในวันที่ 6 กันยายน 2568 ซึ่งจะเป็นบททดสอบการจัดการโรเตชันและการรักษาสมาธิในเกมที่อาจจะเข้มข้นกว่าเกมนี้. ทีมชาติต้องรักษามาตรฐานทั้งเกมรุกและความมีวินัยเกมรับเพื่อเป้าหมายการเป็นแชมป์กลุ่มและผ่านเข้ารอบต่อไป

บทสรุป

ผลการแข่งขัน 6-0 คือสัญญาณที่ดี ไทย U23 แสดงให้เห็นทั้งความเร็ว ความกล้า และความเป็นทีม แต่นักวิเคราะห์ต้องเตือนว่า “คะแนนความสำเร็จ” ของแมตช์นี้ไม่ควรทำให้หลงไปกับผลลัพธ์เพียงอย่างเดียว การปรับเรื่องการจบสกอร์ ความสอดประสานเมื่อเจอคู่แข่งที่เหนียวกว่า และการบริหารสภาพร่างกายนักเตะ จะเป็นตัวชี้ชะตาในรอบคัดเลือกที่ยังมีการแข่งขันอีกหลายเกมรออยู่