
ต้นตอของปัญหา จากสัญญานักเตะถึงคำตัดสินของ FIFA
สโมสรหนองบัว พิชญ เอฟซี ทีมดังจากภาคอีสาน ภายหลังตกชั้นจากไทยลีก 1 สู่ไทยลีก 2 ฤดูกาลหน้า กำลังเผชิญวิกฤติครั้งใหญ่ หลังนักเตะต่างชาติเกิดอ้างสัญญาฉบับหนึ่งแล้วฟ้องร้องสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ว่าละเมิดสัญญาสโมสรยืนยันว่าไม่ได้ลงนามในสัญญาดังกล่าวและไม่เคยรู้เรื่องมาก่อน แต่กลับถูกปรับเป็นเงินร่วมสิบล้านบาทตามคำสั่งฟีฟ่า เหตุการณ์นี้กระตุ้นให้มีกระแสข่าวถึงทางออกสุดท้ายของทีม ทั้งการยุบทีมหรือพักสิทธิ์ไม่ส่งแข่งไทยลีก 2 ฤดูกาล 2025/26
ปัญหาสัญญาฉาวกับฟีฟ่า
รายงานข่าวจากหลายสำนักระบุว่า นักเตะผู้อ้างปัญหาดังกล่าวเป็นผู้เซ็นสัญญาจากหนองบัวฯ จริง แต่ฝึกซ้อมกับทีมได้เพียงราว 20 นาทีเท่านั้น หลังจากนั้นอ้างเหตุผลว่ามีปัญหาครอบครัว (ลูกป่วย) จึงขอยกเลิกสัญญา สโมสรจึงยินยอมปลดปล่อยตามคำขอ อย่างไรก็ดี หลังจากนักเตะไปร่วมทีมสโมสรในตะวันออกกลางแล้ว เขาได้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อฟีฟ่า ระบุว่าการยกเลิกสัญญานั้นไม่เป็นธรรม และให้หนองบัวฯ จ่ายค่าชดเชยแก่เขาราว 6 ล้านบาท นอกจากนี้พบหลักฐานว่าเอกสารสำคัญบางส่วนในสัญญานั้นถูกปลอมขึ้น ฟอนต์และลายเซ็นต่างจากมาตรฐานของสโมสร. ด้วยเหตุนี้ หนองบัวฯ ยืนยันว่าตนเองบริสุทธิ์ตามจริง แต่เนื่องจากไม่มีเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบระบบศาลกีฬา (FIFA Legal Portal) เป็นประจำ สโมสรจึงพลาดกำหนดเวลาตอบโต้ ทำให้คณะกรรมการฟีฟ่าตัดสินลงโทษให้ชำระค่าชดเชยแก่ผู้เล่นรายนี้ประมาณ 6 ล้านบาทตามกระบวนการ
แถลงการณ์สโมสร 20 มิถุนายน
สโมสรเตรียมจัดแถลงข่าวสำคัญในวันที่ 20 มิถุนายน 2568 เพื่อชี้แจงถึงกรณีทั้งหมด โดยหนึ่งในประเด็นหลักคือการตัดสินใจว่าจะส่งทีมลงแข่งขันไทยลีก 2 ฤดูกาล 2025/26 หรือไม่ หลังมีข่าวว่าทีมอาจ “พักสิทธิ์” หรือลงแข่งไม่ครบ ฐานปัญหาทางการเงินจากค่าใช้จ่ายที่ถาโถมเข้ามาทั้งนี้ หนองบัวฯ ก็ได้ยื่นคำร้องต่อฟีฟ่าเรื่องการปลอมแปลงเอกสารสัญญาที่ก่อให้เกิดความเสียหายประมาณ 2 ล้านบาท ซึ่งฟีฟ่าแจ้งว่าคำตัดสินในประเด็นนี้จะออกในวันที่ 20 มิถุนายนเช่นกัน ผลการตัดสินจากฟีฟ่าในวันดังกล่าวจะเป็นปัจจัยสำคัญต่อการกำหนดทิศทางของสโมสร ว่าจะเดินหน้าลงแข่งต่อหรือไม่อย่างไร และสโมสรจะแจ้งจุดยืนต่อแฟนบอลทันทีหลังได้ทราบคำตอบ.
บทลงโทษจากสมาคมฯ
หากหนองบัวฯ ตัดสินใจไม่ส่งทีมเข้าแข่งขันตามกำหนด จะเข้าข่ายละเมิดระเบียบการแข่งขันไทยลีก 2 อย่างรุนแรง โดยกฎไทยลีก 2 กำหนดบทลงโทษไว้ชัดเจน ดังนี้
- ปรับเงิน 1,000,000 บาท
- ชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจริงแก่สมาคมฯ หรือผู้ร้อง
- คืนเงินสนับสนุนของสมาคมฯ ที่เคยได้รับทั้งหมด
- ยกเลิกผลการแข่งขันของทีมหนองบัวฯ ทุกนัดในฤดูกาลนั้น
- พ้นจากสมาชิกภาพของสมาคมฯ โดยอัตโนมัติ
ตัวอย่างกรณีจริง ได้แก่ สมุทรปราการ ซิตี้ เอฟซี ที่ถูกถอนออกจากไทยลีก 2 กลางฤดูกาล 2024/25 คณะกรรมการวินัยฯ สั่งปรับเงิน 2 ล้านบาท พร้อมเรียกคืนเงินสนับสนุนทั้งหมด ยุติการแข่งขันที่เหลือ และยกเลิกสัญชาติสมาชิกของสโมสรทันที กรณีดังกล่าวสะท้อนว่าการไม่ส่งทีมลงแข่งจะตามมาด้วยบทลงโทษหนักทั้งทางวินัยและการเงิน.
ทางเลือกและผลกระทบต่ออนาคต
ในสถานการณ์นี้ หนองบัวฯ มีหลายทางเลือก ทั้งการเดินเรื่องอุทธรณ์คำสั่งฟีฟ่าและจัดหาเงินทุนมาชำระค่าปรับ/ค่าชดเชยให้ครบตามกำหนด การเจรจากับผู้สนับสนุนและผู้ลงทุนใหม่เพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน, หรือแม้กระทั่งการยุบทีมแล้วกลับไปเริ่มต้นใหม่จากลีกระดับล่างอีกครั้ง ตามที่สำนักข่าวรายงานไว้ หากสโมสรไม่สามารถหาเงินชำระค่าปรับได้ ทางออกที่ง่ายที่สุดอาจเป็นการยุบทีมแล้วก่อตั้งทีมใหม่จากนอกลีก อย่างไรก็ตาม การที่สโมสรยังยืนยันส่งทีมลงแข่งขันต่อจะช่วยหลีกเลี่ยงบทลงโทษจากสมาคมฯ แต่จำเป็นต้องมีแผนบริหารจัดการเรื่องงบประมาณอย่างรัดกุมมากขึ้น เพื่อตอบสนองข้อเรียกร้องทางการเงินและข้อกำหนดด้านวินัยของฟุตบอลไทย
วิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นกับหนองบัว พิชญ เอฟซี ในครั้งนี้ ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการบริหารจัดการสัญญาและการเงินสโมสรอย่างรอบคอบ หากสโมสรสามารถผ่านพ้นปัญหาและส่งทีมแข่งต่อได้ ก็ต้องเผชิญกับภาระการเงินในทันที และหาวิธีปฏิบัติตามกฎระเบียบของฟีฟ่าและสมาคมฯ แต่หากยุติลงตอนนี้ ผลกระทบจะรุนแรงทั้งทางการเงินและภาพลักษณ์ โดยมีบทลงโทษตามกฎชัดเจน
More Stories
โค้ชวังยิ้ม ไทย U23 ไล่ถลุงมองโกเลีย 6-0 เปิดหัวคัดเอเชียอย่างเร้าใจ
พรีเมียร์ลีกคึกคัก เปิดโพยดีลวันสุดท้าย ใครเสริมโหด ใครวืดน่าเศร้า
จากความหวังสู่ความห่วง ทำไมแมนฯ ยูไนเต็ด ยังหาฟอร์มไม่เจอในฤดูกาลใหม่