
วิเคราะห์ก่อนเกม จันทบุรี เอฟซี พบกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
ศึก ช้าง เอฟเอ คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดสำคัญระหว่าง จันทบุรี เอฟซี กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะแข่งขันขึ้นในวันเสาร์ที่ 3 พฤษภาคม 2568 เวลา 18.00 น. ณ สนามกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี ทั้งสองทีมต่างมีลุ้นเข้ารอบรองชนะเลิศต่อไป โดยเป็นการพบกันระหว่างแชมป์ไทยลีก 11 สมัยจากลีกสูงสุดกับทีมจากไทยลีก 2 ที่ฟอร์มกำลังดีบุรีรัมย์ ในฐานะจ่าฝูงไทยลีก 1 จะบุกมาเยือนสังเวียนทีมลีกรอง ถือเป็นศึกสาย David vs Goliath ที่แฟนบอลไทยจับตามอง
ฟอร์มทีมล่าสุด
จันทบุรี เอฟซี (ไทยลีก 2) แม้จะได้เล่นในลีกระดับรอง แต่ผลงานนัดล่าสุดถือว่าไม่แพ้ใครมากนัก โดยใน 5 เกมหลังสุดรวมทั้งลีกและบอลถ้วย จันทบุรีชนะ 3 เสมอ 1 แพ้ 1 ตัวอย่างเช่น ชนะ ศรีสะเกษ 1-0 (1 เม.ย. 68) ชนะ ชลบุรี 1-0 (5 เม.ย. 68) เสมอ ตราด 2-2 (26 เม.ย. 68) เป็นต้น ทั้งนี้ ทีมอยู่อันดับกลางตารางไทยลีก 2 ทำผลงานค่อนข้างทรงตัว แต่มีความมั่นใจจากการไม่แพ้หลายนัดติด จันทบุรี จะหวังใช้ความคึกคักในบ้านบุกใส่คู่ต่อสู้
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (ไทยลีก 1) ฟอร์มช่วงหลังแข็งแกร่ง โดยยังครองจ่าฝูงไทยลีก 1 แบบเหนียวแน่นตลอดฤดูกาล (ยิงประตูได้มากถึง 92 ประตู จาก 30 เกม แนวรุกดุดัน เกมล่าสุดบุกชนะ หนองบัว พิชญ 7-0 (30 เม.ย. 68) ขณะที่นัดก่อนหน้านี้เร่งรีดเชือด บางกอก ยูไนเต็ด 2-1 ในรอบคัดเลือกรอบรองฯ ลีกคัพ (16 เม.ย. 68)แม้ว่าจะพลาดท่าต่อ บีจี ปทุม 1-2 (12 เม.ย. 68) และแพ้อัล อาห์ลี 0-3 ใน ACL (26 เม.ย. 68) แต่โค้ชได้โรเตชั่นนักเตะบ้างในรายการอื่น กลับมาเน้นทำผลงานในฟุตบอลถ้วยภายในประเทศ บุรีรัมย์ ยังคงเป็นต่อเรื่องคุณภาพทีมและขุมกำลังตัวผู้เล่นที่เหนือกว่า
นักเตะเด่น
จันทบุรี เอฟซี: กองหน้าต่างชาติของทีมคือ ติอาโก ชูลาปา (Tiago Chulapa) กับ เบเนเวนีโด้ มาราโญ่ ที่ทำประตูได้ต่อเนื่องในซีซั่นนี้ โดยชูลาปานำเป็นดาวยิงของทีม 3 ประตู ส่วน มาราโญ่ ทำ 2 ประตูในไทยลีก 2 แม้จะจบสกอร์มากกว่านั้นไม่มีนักเตะคนใดโดดเด่นมาก ทีมจันทบุรีพึ่งพาเกมบุกของ 2 ผู้เล่นต่างชาติรายนี้เป็นหลัก และมีมารุต บุดราช แบ็กซ้ายตัวเก๋าที่ทำไป 1 ประตูเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญในแนวรับ
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด: แข้งตัวหลักอยู่กันครบพร้อมลงเล่น อาทิ กุยเลร์เม่ บิสโซลี่ กองหน้าแซมบ้าความเร็วสูง, ศุภชัย ใจเด็ด กองหน้าทีมชาติไทย และ ลูคัส คริสปิม มิดฟิลด์บราซิเลียนที่บู๊ได้ทั้งแดนกลางและรุก นอกจากนี้มี ดีออน คูลส์ กองหลังเชิงสูงชาวเบลเยียมคุมเกมรับ และดาวรุ่งอย่าง สุภนัทธ์ มุ้ยพันธ์ ที่พร้อมเป็นทีเด็ดริมเส้น ทั้งหมดเป็นผู้เล่นชุดหลักของปราสาทสายฟ้าฤดูกาลนี้ ซึ่งประสบการณ์และคุณภาพของขุมกำลังชุดนี้ถือว่าห่างชั้นกว่าฝั่งจันทบุรีค่อนข้างมาก
แท็คติกและจุดสำคัญ
จันทบุรี เอฟซี คาดว่าจะจัดชุดเดิมที่เน้นเกมรับเหนียวแน่นและใช้การโต้กลับเป็นหลัก ทีมมักเล่นด้วยระบบ 4-3-3 หรือ 4-2-3-1 มีแนวรุกต่างชาติที่อันตราย ทำให้พยายามส่งบอลยาวเข้าสู่กองหน้า หรือใช้พื้นที่ริมเส้นกระชากขึ้นหน้าเพื่อเจาะแนวรับบุรีรัมย์ ส่วนบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด น่าจะวางระบบ 4-2-3-1/4-3-3 โจมตีเชิงรุก โดยใช้การครองบอลเป็นใหญ่ เปิดเกมรุกกดดันสูง ใช้ความเร็วของบิสโซลี่และศุภชัยวิ่งทะลุช่องเพื่อตัดเข้าเขตโทษ เจ้าถิ่นต้องระวังการหลุดเดี่ยวของสองแนวรุกนี้ รวมถึงจังหวะวอลเลย์นอกกรอบจากลูคัส ด้วย ช่วงกลางสนามจะเป็นคู่มิดฟิลด์บุรีรัมย์ที่มักควบคุมเกมได้เหนือกว่า (เช่น กุยตา ปาปา) ส่วนจันทบุรีเน้นเรียงตัวสี่คนกลางแข็งแรง คอยบล็อกและสกัดแนวรุกประมาทหากมีโอกาสต้องรีบสวนกลับทันที จุดเปลี่ยนเกมสำคัญ คือการเปิดเกมริมเส้นจากบุรีรัมย์ฝั่งซ้ายหรือขวา บวกกับลูกตั้งเตะต่างๆ ของทีมเยือนที่มักเฉียบคม ซึ่งจันทบุรีต้องไม่เสียประตูง่าย ๆ
สถิติการพบกันนัดล่าสุด
- 20 ต.ค. 2553: จันทบุรี เอฟซี เสมอ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 2-2 (ไทยลีก 2)
- 13 ก.ค. 2559: จันทบุรี เอฟซี แพ้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 0-5 (ช้าง เอฟเอ คัพ)
ผลการแข่งขัน 5 นัดล่าสุดของทั้ง 2 ทีม
จันทบุรี เอฟซี
- 1 เม.ย. 68: ชนะ ศรีสะเกษ ยูไนเต็ด 1-0
- 5 เม.ย. 68: ชนะ ชลบุรี เอฟซี 1-0
- 9 เม.ย. 68: ชนะ ราชประชา 2-1 (ช้าง เอฟเอ คัพ)
- 19 เม.ย. 68: แพ้ ชัยนาท ฮอร์นบิล 2-5
- 26 เม.ย. 68: เสมอ ตราด เอฟซี 2-2
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
- 12 เม.ย. 68: แพ้ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด 1-2 (ไทยลีก 1)
- 16 เม.ย. 68: ชนะ แบงค็อก ยูไนเต็ด 2-1 (ลีก คัพ)
- 19 เม.ย. 68: แพ้ ราชบุรี 2-3 (ไทยลีก 1)
- 26 เม.ย. 68: แพ้ อัล อาห์ลี 0-3 (AFC CL)
- 30 เม.ย. 68: ชนะ หนองบัว พิชญ 7-0 (ไทยลีก 1)
คาดการณ์ผลการแข่งขัน
ด้วยความต่างชั้นระหว่างทีมและผลงานรวมของซีซั่นนี้ จึงคาดว่าบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดที่ฟอร์มแข็งแกร่งกว่าและมีขุมกำลังตัวผู้เล่นเหนือกว่า จะเป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ ประมาณ 3-1 โดยบุรีรัมย์น่าจะครองบอลบุกอยู่ฝ่ายเดียว ส่วนจันทบุรีน่าจะเน้นรับแล้วหาจังหวะสวนกลับเป็นจุดโทษ ข้อดีของจันทบุรีคือได้เล่นในบ้านและกำลังใจแฟนบอลช่วยหนุน แต่ปัจจัยทีมเยือนดีกว่า ทำให้ “ปราสาทสายฟ้า” มีโอกาสสูงที่จะตุนประตูได้ขาดลอยมากกว่า
บทสรุป
เกมนี้เป็นแมตช์สำคัญของศึกช้าง เอฟเอ คัพ ที่ทั้งสองทีมต้องการผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ โดยจันทบุรี เอฟซี จะใช้จุดแข็งเกมรับในบ้านสู้กับบุกแรงของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ขณะที่ปราสาทสายฟ้ายังคาดหวังชัยชนะเพื่อคืบคว้าตั๋ว ACL Elite รอบเพลย์ออฟ ทั้งหมดนี้ทำให้เกมนัดนี้น่าติดตามชมอย่างมาก หวังว่าทุกท่านจะติดตามบทวิเคราะห์เกมต่อไปของทีมผู้จัดทำด้วยครับ
More Stories
วิเคราะห์ก่อนเกม: โปรตุเกส พบกับ ไอร์แลนด์ ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนยุโรป
วิเคราะห์ก่อนเกม: อิรัก พบกับ อินโดนีเซีย ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 4 กลุ่ม B
วิเคราะห์ก่อนเกม: ยูเออี พบกับ โอมาน ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 4 กลุ่ม A