12/10/2025

MongGame.com

เกาะติดทุกเกมฟุตบอล พร้อมบทวิเคราะห์เจาะลึก กับมุมมองที่เหนือกว่า

สุโขทัย 0-4 ไม่ยอมตาย ตีเสมอบีจี ปทุม 4-4 เกมม้วนเดียวจบสุดโลก

สุโขทัย 0-4 ไม่ยอมตาย ตีเสมอบีจี ปทุม 4-4 เกมม้วนเดียวจบสุดโลก

สุโขทัย 0-4 ไม่ยอมตาย ตีเสมอบีจี ปทุม 4-4 เกมม้วนเดียวจบสุดโลก

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เปิดบ้านรับ สุโขทัย เอฟซี ในแมตช์ส่งท้ายฤดูกาล เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2568 ผลการแข่งขันเรียกเสียงฮือฮาด้วยสกอร์เสมอ 4-4 อย่างสุดดราม่า เดอะ แรบบิทขึ้นนำก่อน 4-0 ตั้งแต่ครึ่งแรกจาก กาคุโตะ โนสึดะ (น.2), ราเนียล ซานตาน่า (น.22), อิคซาน ฟานดี้ (น.41) และวาริส ชูทอง (น.44)​ จนแฟนๆ มั่นใจในชัยชนะ แต่ สุโขทัย เอฟซี ก็ไม่ยอมแพ้ ไล่ตีไข่แตกช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรกจาก มาเธอุส ฟอร์นาซารี่ (น.45+3) ตามด้วยประตูของ ฟอร์นาซารี่ อีกในน.56 แถมยังได้สองประตูประตูช่วงท้ายจาก อิโตะ อิชิโมโตะ (น.90+3) และ ฟอร์นาซารี่ ทำแฮตทริก (น.90+4) ตีเสมอ 4-4 สกอร์สุดระทึกนี้ทำให้ทั้งสองทีมแบ่งกันไปทีมละหนึ่งคะแนน โดย บีจี ปทุม ได้ 53 แต้ม จบอันดับ 3 ส่วน สุโขทัย มี 36 แต้ม จบอันดับ 10 ในตารางไทยลีกปีนี้

กลยุทธ์คืนชีพของสุโขทัย

แม้จะถูกนำห่างถึง 0-4 แต่กุนซือ สุโขทัย (ซึ่งในปีนี้เตรียมส่งไม้ต่อให้อัคถภรณ์ ชลิตาภรณ์) ไม่ถอดใจ สั่งผู้เล่นเดินเกมรุกบุกบีจีต่อเนื่องตลอดช่วงพักครึ่งและครึ่งหลัง ผลงานนี้เกิดขึ้นจากแผนการเล่นที่เปลี่ยนจากตั้งรับเป็นบุกเต็มตัว เมื่อจ่ายบอลให้กองหน้าทะลุช่อง ซึ่งเห็นได้ชัดจากการที่ สุโขทัย ยิงได้ 3 ประตูรวดในครึ่งหลัง​ ข้อมูลจากสยามสปอร์ตระบุว่า สุโขทัยได้ประตูเพิ่มในช่วงท้ายครึ่งหลังจาก มาเธอุส ฟอร์นาซารี่ นาทีที่ 56 ทำให้สกอร์เป็น 4-2​ ก่อนที่ อิโตะ อิชิโมโตะ ตัวสำรองจะหลุดไปยิงในน.90+3 และ ฟอร์นาซารี่ ซัดอีกครั้งในน.90+4 ตีเสมอ 4-4ทั้งนี้ มาเธอุส ฟอร์นาซารี่ จบฤดูกาลด้วยแฮตทริกในเกมนี้ สะท้อนให้เห็นบทบาทสำคัญของผู้เล่นผู้นี้ในเกมรุก ขณะที่การเปลี่ยนตัวช่วงท้ายเกมส่งผลดี — โจนาธาน โลการ์วิท (สตริงค์วิทย์) และอเล็กซ์ เบราเฮง ยิงบอลให้เพื่อนทำประตูหลายลูก และ อิชิโมโตะ ผู้มาสร้างความสดในแดนหน้า ก็ถูกส่งลงมาในช่วงท้ายช่วยกดดันแนวรับบีจีจนสำเร็จ

ปัจจัยพังทลายของบีจี ปทุม

ในมุมของ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด แม้ว่าผลงานครึ่งแรกจะ “เพอร์เฟกต์” ไปถึง 40 นาที แต่กลับล่มสลายเต็มรูปแบบในครึ่งหลัง ซึ่งเฮดโค้ช สุภชัย คมศิลป์ (โค้ชบอย) ก็รับผิดชอบเต็มๆ โดยยอมรับว่าเขาผิดหวังสุดๆ กับผลงานที่เกิดขึ้น​ โค้ชบอยเผยว่า หลังได้ถึง 4 ประตู บีจี กลับชะล่าใจมากกว่าดูเฉื่อย เสียจังหวะและลดทอนความดุดันลง เขายังวิจารณ์การเปลี่ยนตัวว่าอาจเป็นผิดในมุม หลังส่งผู้เล่นรับต่ำลงมาเล่นแทน นอกจากนี้โค้ชบอยชี้ว่าการเข้าบุกด้วยผู้เล่นหน้าเป้า 7 คน ในขณะที่เหลือผู้เล่นรับเพียง 3 คน ทำให้เกิดช่องโหว่รั่วไหลง่ายดาย บทสรุปของโค้ชบอยคือ “เราทำตัวเองแหละ” ที่เปิดโอกาสให้คู่แข่งไล่ตามตีเสมออย่างเหลือเชื่อ​ ทั้งหมดนี้ชี้ชัดว่าบีจีหยุดเกมรับไปหลังนำห่าง และต้องเรียนรู้กลับมาแก้ไขให้เข้มข้นตลอด 90 นาที เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย

ปฏิกิริยาจากแฟนบอล

บรรยากาศหลังจบเกมในสนามบีจี เต็มไปด้วยความผิดหวังสำหรับแฟนลูกหนัง “เดอะ แรบบิท” ของ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด แหล่งข่าวรายงานว่าแฟนบอลหลายพันรายส่งเสียงโห่ใส่นักเตะอย่างหนักแสดงออกถึงความไม่พอใจที่เห็นทีมรักสละความได้เปรียบจนเสียแต้ม โดยแม้ประธานสโมสร ปวิณ พิรมย์ภักดี จะลงมาปลอบขวัญลูกทีมทันที ก็ไม่อาจกลบความโกรธของแฟนๆได้ ในทางกลับกัน ฝั่งแฟนคลับสุโขทัย เอฟซี ต่างปลื้มปิติเป็นล้นพ้นกับสปิริต “ไม่ยอมแพ้” ของทีม เมื่อค้างคาวไฟแสดงให้เห็นว่าการไม่มีอะไรจะเสียช่วยจุดประกายพลังใจจนคัมแบ็กสำเร็จ ผู้ชมบางส่วนบนโซเชียลมีเดียชมถึงวิญญาณนักสู้ที่ทีมมี และยกย่องผู้เล่นที่ไม่ยอมถอยแม้ครึ่งแรกเป็นรองขาดลอย

บทสรุป

แมตช์นี้จะถูกจารึกเป็นหนึ่งในเกมที่สุดโต่งของไทยลีกฤดูกาล 2024/25 โดยสื่อหลักชี้ว่าแม้ บีจี ปทุม จะเก็บได้ 53 แต้ม จบอันดับ 3 ในลีก​ แต่พวกเขาคงต้องกลับไปปรับปรุงสภาพจิตใจและแผนการเล่นในเกมรับใหม่ ส่วน สุโขทัย ซึ่งจบอันดับ 10 ก็ได้บทเรียนเรื่องสปิริตสำคัญว่าการไม่ยอมแพ้จนสุดท้ายสามารถสร้างเซอร์ไพรส์ได้เสมอ ถอดบทเรียนจากเกมนี้ ก็คือไม่มีการขึ้นนำใดปลอดภัยโดยสมบูรณ์ และเกมลูกหนังเป็นเรื่องของ 90 นาทีสุดท้าย ทั้งสองทีมจะต้องนำข้อผิดพลาดและความสำเร็จวันนี้ไปพัฒนาต่อในฤดูกาลหน้า