
สุโขทัย 0-4 ไม่ยอมตาย ตีเสมอบีจี ปทุม 4-4 เกมม้วนเดียวจบสุดโลก
บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เปิดบ้านรับ สุโขทัย เอฟซี ในแมตช์ส่งท้ายฤดูกาล เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2568 ผลการแข่งขันเรียกเสียงฮือฮาด้วยสกอร์เสมอ 4-4 อย่างสุดดราม่า เดอะ แรบบิทขึ้นนำก่อน 4-0 ตั้งแต่ครึ่งแรกจาก กาคุโตะ โนสึดะ (น.2), ราเนียล ซานตาน่า (น.22), อิคซาน ฟานดี้ (น.41) และวาริส ชูทอง (น.44) จนแฟนๆ มั่นใจในชัยชนะ แต่ สุโขทัย เอฟซี ก็ไม่ยอมแพ้ ไล่ตีไข่แตกช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรกจาก มาเธอุส ฟอร์นาซารี่ (น.45+3) ตามด้วยประตูของ ฟอร์นาซารี่ อีกในน.56 แถมยังได้สองประตูประตูช่วงท้ายจาก อิโตะ อิชิโมโตะ (น.90+3) และ ฟอร์นาซารี่ ทำแฮตทริก (น.90+4) ตีเสมอ 4-4 สกอร์สุดระทึกนี้ทำให้ทั้งสองทีมแบ่งกันไปทีมละหนึ่งคะแนน โดย บีจี ปทุม ได้ 53 แต้ม จบอันดับ 3 ส่วน สุโขทัย มี 36 แต้ม จบอันดับ 10 ในตารางไทยลีกปีนี้
กลยุทธ์คืนชีพของสุโขทัย
แม้จะถูกนำห่างถึง 0-4 แต่กุนซือ สุโขทัย (ซึ่งในปีนี้เตรียมส่งไม้ต่อให้อัคถภรณ์ ชลิตาภรณ์) ไม่ถอดใจ สั่งผู้เล่นเดินเกมรุกบุกบีจีต่อเนื่องตลอดช่วงพักครึ่งและครึ่งหลัง ผลงานนี้เกิดขึ้นจากแผนการเล่นที่เปลี่ยนจากตั้งรับเป็นบุกเต็มตัว เมื่อจ่ายบอลให้กองหน้าทะลุช่อง ซึ่งเห็นได้ชัดจากการที่ สุโขทัย ยิงได้ 3 ประตูรวดในครึ่งหลัง ข้อมูลจากสยามสปอร์ตระบุว่า สุโขทัยได้ประตูเพิ่มในช่วงท้ายครึ่งหลังจาก มาเธอุส ฟอร์นาซารี่ นาทีที่ 56 ทำให้สกอร์เป็น 4-2 ก่อนที่ อิโตะ อิชิโมโตะ ตัวสำรองจะหลุดไปยิงในน.90+3 และ ฟอร์นาซารี่ ซัดอีกครั้งในน.90+4 ตีเสมอ 4-4ทั้งนี้ มาเธอุส ฟอร์นาซารี่ จบฤดูกาลด้วยแฮตทริกในเกมนี้ สะท้อนให้เห็นบทบาทสำคัญของผู้เล่นผู้นี้ในเกมรุก ขณะที่การเปลี่ยนตัวช่วงท้ายเกมส่งผลดี — โจนาธาน โลการ์วิท (สตริงค์วิทย์) และอเล็กซ์ เบราเฮง ยิงบอลให้เพื่อนทำประตูหลายลูก และ อิชิโมโตะ ผู้มาสร้างความสดในแดนหน้า ก็ถูกส่งลงมาในช่วงท้ายช่วยกดดันแนวรับบีจีจนสำเร็จ
ปัจจัยพังทลายของบีจี ปทุม
ในมุมของ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด แม้ว่าผลงานครึ่งแรกจะ “เพอร์เฟกต์” ไปถึง 40 นาที แต่กลับล่มสลายเต็มรูปแบบในครึ่งหลัง ซึ่งเฮดโค้ช สุภชัย คมศิลป์ (โค้ชบอย) ก็รับผิดชอบเต็มๆ โดยยอมรับว่าเขาผิดหวังสุดๆ กับผลงานที่เกิดขึ้น โค้ชบอยเผยว่า หลังได้ถึง 4 ประตู บีจี กลับชะล่าใจมากกว่าดูเฉื่อย เสียจังหวะและลดทอนความดุดันลง เขายังวิจารณ์การเปลี่ยนตัวว่าอาจเป็นผิดในมุม หลังส่งผู้เล่นรับต่ำลงมาเล่นแทน นอกจากนี้โค้ชบอยชี้ว่าการเข้าบุกด้วยผู้เล่นหน้าเป้า 7 คน ในขณะที่เหลือผู้เล่นรับเพียง 3 คน ทำให้เกิดช่องโหว่รั่วไหลง่ายดาย บทสรุปของโค้ชบอยคือ “เราทำตัวเองแหละ” ที่เปิดโอกาสให้คู่แข่งไล่ตามตีเสมออย่างเหลือเชื่อ ทั้งหมดนี้ชี้ชัดว่าบีจีหยุดเกมรับไปหลังนำห่าง และต้องเรียนรู้กลับมาแก้ไขให้เข้มข้นตลอด 90 นาที เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย
ปฏิกิริยาจากแฟนบอล
บรรยากาศหลังจบเกมในสนามบีจี เต็มไปด้วยความผิดหวังสำหรับแฟนลูกหนัง “เดอะ แรบบิท” ของ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด แหล่งข่าวรายงานว่าแฟนบอลหลายพันรายส่งเสียงโห่ใส่นักเตะอย่างหนักแสดงออกถึงความไม่พอใจที่เห็นทีมรักสละความได้เปรียบจนเสียแต้ม โดยแม้ประธานสโมสร ปวิณ พิรมย์ภักดี จะลงมาปลอบขวัญลูกทีมทันที ก็ไม่อาจกลบความโกรธของแฟนๆได้ ในทางกลับกัน ฝั่งแฟนคลับสุโขทัย เอฟซี ต่างปลื้มปิติเป็นล้นพ้นกับสปิริต “ไม่ยอมแพ้” ของทีม เมื่อค้างคาวไฟแสดงให้เห็นว่าการไม่มีอะไรจะเสียช่วยจุดประกายพลังใจจนคัมแบ็กสำเร็จ ผู้ชมบางส่วนบนโซเชียลมีเดียชมถึงวิญญาณนักสู้ที่ทีมมี และยกย่องผู้เล่นที่ไม่ยอมถอยแม้ครึ่งแรกเป็นรองขาดลอย
บทสรุป
แมตช์นี้จะถูกจารึกเป็นหนึ่งในเกมที่สุดโต่งของไทยลีกฤดูกาล 2024/25 โดยสื่อหลักชี้ว่าแม้ บีจี ปทุม จะเก็บได้ 53 แต้ม จบอันดับ 3 ในลีก แต่พวกเขาคงต้องกลับไปปรับปรุงสภาพจิตใจและแผนการเล่นในเกมรับใหม่ ส่วน สุโขทัย ซึ่งจบอันดับ 10 ก็ได้บทเรียนเรื่องสปิริตสำคัญว่าการไม่ยอมแพ้จนสุดท้ายสามารถสร้างเซอร์ไพรส์ได้เสมอ ถอดบทเรียนจากเกมนี้ ก็คือไม่มีการขึ้นนำใดปลอดภัยโดยสมบูรณ์ และเกมลูกหนังเป็นเรื่องของ 90 นาทีสุดท้าย ทั้งสองทีมจะต้องนำข้อผิดพลาดและความสำเร็จวันนี้ไปพัฒนาต่อในฤดูกาลหน้า
More Stories
โค้ชวังยิ้ม ไทย U23 ไล่ถลุงมองโกเลีย 6-0 เปิดหัวคัดเอเชียอย่างเร้าใจ
พรีเมียร์ลีกคึกคัก เปิดโพยดีลวันสุดท้าย ใครเสริมโหด ใครวืดน่าเศร้า
จากความหวังสู่ความห่วง ทำไมแมนฯ ยูไนเต็ด ยังหาฟอร์มไม่เจอในฤดูกาลใหม่