
ซิตี้เฉือนวิลล่าท้ายเกม 2-1 วิเคราะห์แผน-จุดแข็ง-ปัญหาของเรือใบสีฟ้าในนัดนี้
ในเกมพรีเมียร์ลีกค่ำคืนวันที่ 22 เมษายน 2025 ที่เอติฮัด สเตเดียม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แสดงให้เห็นถึง “หัวใจของผู้ล่าแชมป์” ด้วยฟอร์มการเล่นที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น ความลึกของทีม และความสามารถในการเปลี่ยนเกมในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด แม้จะไม่มีชื่อของเออร์ลิง ฮาแลนด์ และโรดรี้ ในรายชื่อ 11 ตัวจริง แต่ลูกทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ก็ยังสามารถเอาชนะ แอสตัน วิลล่า ไปได้แบบหวุดหวิด 2-1 โดยเฉพาะการจบสกอร์ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บที่กลายเป็นไฮไลต์ของเกมนี้ผลการแข่งขันนี้ไม่เพียงแค่ส่งผลต่อคะแนนในตารางเท่านั้น แต่มันยังบ่งบอกถึงตัวตนของแมนฯ ซิตี้ ในยุคที่ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาดาวยิงคนใดคนหนึ่ง แต่สามารถให้ใครก็ได้ในทีม “เป็นฮีโร่” ได้ในทุกค่ำคืน การได้ประตูชัยจาก มาติอัส นูเนซ ในนาทีที่ 94 ซึ่งเป็นสามแต้มล้ำค่าที่พาซิตี้ขึ้นมารั้งอันดับ 3 ของตารางพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ
รูปเกมโดยรวม
ซิตี้เริ่มเกมด้วยความมั่นใจสูง เปิดเกมรุกใส่แอสตัน วิลล่าอย่างต่อเนื่อง และได้ประตูขึ้นนำตั้งแต่นาทีที่ 7 จากจังหวะที่ โอมาร์ มาร์มุช ลากบอลขึ้นทางกราบขวาก่อนตบกลับให้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ซัดเข้าไปแบบเฉียบขาด วิลล่าไม่ได้มาตั้งรับอย่างเดียว พวกเขาได้จุดโทษจากจังหวะที่ รูเบน ดิอาส ไปทำฟาวล์ใส่ จาค็อบ แรมซี่ย์ ในเขตโทษ มาร์คัส แรชฟอร์ด รับหน้าที่สังหารไม่พลาด เสมอกัน 1-1 และทำให้เกมกลับมาสูสีอีกครั้งแต่ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เจเรมี่ ด็อกู ที่ลงมาเป็นตัวสำรอง โชว์สปีดลากบอลฝ่ากองหลังวิลล่า ก่อนปาดเรียดให้ นูเนซ ซัดเข้าไปอย่างเด็ดขาด จบเกม แมนฯ ซิตี้ 2 – 1 แอสตัน วิลล่า
แผนการเล่นของแมนฯ ซิตี้
- แผน 4-3-3 แบบยืดหยุ่น: เป๊ป กวาร์ดิโอลา เลือกใช้ เควิน เดอ บรอยน์ เป็น False 9 โดยมี แบร์นาร์โด้ กับ กุนโดกัน ทำเกมแดนกลาง คุมจังหวะบอลและเปลี่ยนสปีดเกมตลอดเวลา
- เกมเพรสซิ่งสูง: เมื่อเสียบอล ซิตี้จะเพรสซิ่งทันที ทำให้วิลล่าแทบตั้งเกมบุกไม่ติด
- ฟูลแบ็คเติมเกมสูง: ไคล์ วอล์กเกอร์ และ โจเอา กานเซโล่ เติมขึ้นมาเล่นเกมรุกเสมือนเป็นปีกเสริม ช่วยเปิดพื้นที่ให้มิดฟิลด์มีพื้นที่มากขึ้น
จุดแข็งของซิตี้ในเกมนี้
- ความหลากหลายในการโจมตี: ไม่ต้องพึ่ง ฮาแลนด์ ก็ยังมีคนยิงให้ทีมได้หลายทาง ทั้งจากกลางและริมเส้น
- ความลึกของขุมกำลัง: ด็อกู และ นูเนซ ลงมาเป็นตัวสำรอง แต่กลับเป็นตัวเปลี่ยนเกมโดยสิ้นเชิง
- สภาพจิตใจที่ไม่ยอมแพ้: แม้เกมจะใกล้หมดเวลา แต่ลูกทีมของเป๊ปยังคงเน้นเล่นตามระบบ และกล้าตัดสินใจเสี่ยงในจังหวะสุดท้าย
ปัญหาที่เห็นได้
- การจบสกอร์ยังไม่เฉียบ: แม้จะสร้างโอกาสได้ถึง 14 ครั้ง แต่การเปลี่ยนโอกาสเป็นประตูยังไม่สม่ำเสมอ
- แนวรับยังมีช่องโหว่: จังหวะเสียจุดโทษแสดงให้เห็นถึงความประมาทในการป้องกันบอลเร็วและการเข้าบอลในเขตโทษ
สรุป
ชัยชนะเหนือแอสตัน วิลล่าในนาทีสุดท้าย ไม่ได้เป็นแค่สามแต้มธรรมดา แต่เป็นการส่งสัญญาณว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังไม่หมดลมหายใจในการล่าเป้าหมายฤดูกาลนี้ ไม่ว่าจะเป็นการคว้าตั๋วไปแชมเปียนส์ลีก หรือแม้แต่การเบียดลุ้นแชมป์ในโค้งสุดท้าย หากทีมอื่นพลาด ชัยชนะนัดนี้ยังสะท้อนถึง “ดีเอ็นเอของเป๊ป” ที่ไม่ใช่แค่เรื่องแท็กติกที่ล้ำลึก แต่รวมถึงการสร้างทีมให้ทุกคนพร้อมจะก้าวขึ้นมาเป็นฮีโร่ ไม่ว่าจะเป็นนักเตะตัวหลักหรือตัวสำรอง เกมนี้ ด็อกู กับ นูเนซ คือคำตอบของความลึกเชิงคุณภาพที่หลายทีมในพรีเมียร์ลีกยังหาไม่ได้และเหนือสิ่งอื่นใด ซิตี้ได้ตอกย้ำว่า ความสำเร็จไม่ได้วัดที่ชื่อบนหลังเสื้อ แต่วัดจากหัวใจและระบบที่แข็งแกร่ง นี่คือแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่กำลังเร่งเครื่องเต็มสูบสู่เส้นชัยแห่งฤดูกาล 2024/25
More Stories
โค้ชวังยิ้ม ไทย U23 ไล่ถลุงมองโกเลีย 6-0 เปิดหัวคัดเอเชียอย่างเร้าใจ
พรีเมียร์ลีกคึกคัก เปิดโพยดีลวันสุดท้าย ใครเสริมโหด ใครวืดน่าเศร้า
จากความหวังสู่ความห่วง ทำไมแมนฯ ยูไนเต็ด ยังหาฟอร์มไม่เจอในฤดูกาลใหม่