วิเคราะห์ก่อนเกม: ออสเตรีย พบกับ โรมาเนีย ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนยุโรป

วิเคราะห์ก่อนเกม ออสเตรีย พบกับ โรมาเนีย

เกมระหว่าง ออสเตรีย และ โรมาเนีย ในศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม H จะลงแข่งขันใน วันที่ 8 มิถุนายน 2025 01:45 น. (ตามเวลาไทย) ที่ Ernst Happel Stadion, กรุงเวียนนา, ออสเตรีย แมตช์นี้ถือเป็น “จุดเปลี่ยน” สำคัญของทั้งสองทีมในกลุ่ม H ซึ่งออสเตรียเริ่มต้นช้ากว่าทีมอื่น เพราะพวกเขาติดโปรแกรมเพลย์ออฟในยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ช่วงมีนาคม ทำให้เพิ่งมาเริ่มต้นรอบคัดเลือกในเดือนมิถุนายน ขณะที่โรมาเนียลงสนามไปแล้ว 2 นัด เก็บได้ 3 แต้ม (ชนะ ซาน มารีโน 5-1, แพ้ บอสเนียฯ 0-1) ซึ่งพวกเขาต้องการเพิ่มคะแนนเพื่อรักษาตำแหน่งลุ้นผ่านเข้ารอบในฐานะอันดับสองของกลุ่ม  ออสเตรียในยุคกุนซือ ราล์ฟ รังนิก ต้องการเก็บชัยชนะนัดแรกให้ได้ แม้ว่าจะยังไม่ทันได้ลองแท็คติกเพราะเพิ่งเลื่อนชั้นจากเนชั่นส์ ลีก ล่าสุด แต่มีขุมกำลังที่พร้อม ทั้งมาร์โก อาร์เนาโตวิช และ มาร์เชล ซาบิตเซอร์ ที่พกประสบการณ์ยุโรปมาช่วยพยุงทีม ขณะที่โรมาเนียในยุค มิร์เชีย ลุเชสคู ก็เต็มไปด้วยดาวเตะจากเอเชียและยุโรป เช่น ราซวาน มาริน และ ดาริอุส โอลารู ที่กำลังฮ็อตในลีกไทยซึ่งพร้อมสร้างความหนักใจให้เจ้าถิ่น หากมองจากสถานการณ์ตารางคะแนนและฟอร์มล่าสุด ทั้งสองทีมจึงต้องเล่นอย่างระมัดระวัง เพราะการพลาดเพียงนัดเดียวอาจเปลี่ยนเก้าอี้อันดับในกลุ่มได้ทันที

ฟอร์มทีมล่าสุด

ทีมชาติออสเตรีย

• อันดับฟีฟ่า: 22 (พฤษภาคม 2025)
• ผลงาน 5 นัดหลังสุด
  
  1. 23 มีนาคม 2025: เซอร์เบีย 2-0 ออสเตรีย (ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก, เพลย์ออฟ เลกสอง)
  2. 20 มีนาคม 2025: ออสเตรีย 1-1 เซอร์เบีย (ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก, เพลย์ออฟ เลกแรก)
  3. 17 พฤศจิกายน 2024: ออสเตรีย 1-1 สโลวีเนีย (ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก กลุ่ม B)
  4. 14 พฤศจิกายน 2024: คาซัคสถาน 0-2 ออสเตรีย (ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก กลุ่ม B) 
  5. 13 ตุลาคม 2024: ออสเตรีย 5-1 นอร์เวย์ (ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก กลุ่ม B) 

ออสเตรียมีฟอร์มในเนชั่นส์ ลีกช่วงปลายปี 2024 ที่แข็งแกร่ง โดยไม่แพ้ใคร 4 จาก 5 นัดหลังสุด (ชนะ 2 เสมอ 2), แต่ในการเพลย์ออฟกับเซอร์เบีย พวกเขาไม่อาจผ่านเข้ารอบเนื่องจากเสมอแบบราชาแพ้ รวม 2 เลก 1-3 

ทีมชาติโรมาเนีย

• อันดับฟีฟ่า: 35 (พฤษภาคม 2025)
• ผลงาน 5 นัดหลังสุด
  
  1. 24 มีนาคม 2025: ซาน มารีโน 1-5 โรมาเนีย (ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก)
  2. 21 มีนาคม 2025: โรมาเนีย 0-1 บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา (ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก)
  3. 18 พฤศจิกายน 2024: โรมาเนีย 4-1 ไซปรัส (ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก)
  4. 15 พฤศจิกายน 2024: โรมาเนีย 3-0 โคโซโว (ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก)
  5. 15 ตุลาคม 2024: ลิทัวเนีย 1-2 โรมาเนีย (ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก)

โรมาเนียโชว์ฟอร์มได้ดีในเนชั่นส์ ลีก ด้วยชัยชนะ 3 จาก 4 นัด (แพ้บอสเนียฯ 0-1), ส่วนในรอบคัดเลือก พวกเขาเก็บ 3 แต้มจากชัยชนะเหนือซาน มารีโน 5-1 แต่ต้องพ่ายให้บอสเนียฯ 0-1 ในอีก 3 วันต่อมา

นักเตะเด่น

ทีมชาติออสเตรีย

• มาร์โก อาร์เนาโตวิช (Marko Arnautović): กองหน้าจอมเก๋าจาก Fenerbahçe ที่ยังเป็นคีย์แมนในเกมบุก แม้อายุจะ 36 ปีแต่ยังไวปืน แม่นเป้ากับการจบสกอร์ใกล้กรอบเขตโทษ
• มาร์เชล ซาบิตเซอร์ (Marcel Sabitzer): กองกลางตัวกลางจาก Borussia Dortmund ที่เชื่อมเกมระหว่างแดนกลางและแดนหน้าได้ดี ปั้นจังหวะให้เพื่อนและบุกทำประตูได้สม่ำเสมอ
• เดวิด อลาบา (David Alaba): แบ็กซ้าย/เซนเตอร์แบ็กจาก Real Madrid ที่คืนทีมหลังจากหายเจ็บเวลานาน มีทั้งสปีดและความคล่องแคล่วในการขึ้นเกมริมเส้น รวมถึงอ่านเกมรับได้เฉียบขาด

ทีมชาติโรมาเนีย

• ราซวาน มาริน (Răzvan Marin): มิดฟิลด์จาก Torino ที่อยู่ในฟอร์มดีในเซเรีย อา ฤดูกาลล่าสุด พร้อมการบังคับเกมและจ่ายบอลทะลุช่อง ยากแก่กองกลางคู่แข่งจะตามทัน
• ดาริอุส โอลารู (Darius Olaru): มิดฟิลด์ตัวรุกจาก FCSB ที่ยิงไกลแม่นยำและมีความขยัน ครองบอลเก่ง และซัดฟรีคิกอันตราย มีบทบาทสำคัญในการเชื่อมเกมรุก-รับของโรมาเนีย 
• จอร์จินโย่ ไวนัลดุม (Georginio Wijnaldum): แม้สัญชาติเนเธอร์แลนด์ในวัย 34 ปี แต่เพิ่งย้ายมาค้าแข้งกับ Rapid București ในลีกโรมาเนีย สร้างความน่ากลัวในการยิงไกลและครองบอลหน้ากรอบโทษ แถมเป็นหัวใจในการตัดเกมกลางสนาม

แท็คติกและจุดสำคัญ

ทีมชาติออสเตรีย

ออสเตรียภายใต้โค้ช ราล์ฟ รังนิก น่าจะใช้ระบบพื้นฐาน 4-2-3-1

• แผงแผงหลัง (Back Four): ยังคงยึดขาประจำอย่าง เดวิด อลาบา ยืนแบ็กซ้าย, ฟลอเรียน กริลลิทช์ คุมแดนกลางร่วมกับ นิโคลัส เซย์วัลด์ ในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับ เพื่อปิดพื้นที่กลางสนาม
• แดนกลางตัวรุก (Attacking Midfield): มาร์เชล ซาบิตเซอร์ จะยืนเป็นหัวใจเกมรุก ทำหน้าที่เชื่อมโยงบอลให้มาร์โก อาร์เนาโตวิช ส่วนปีกสองข้างอาจวาง ปาทริก วิมเมอร์ กับ โรมาน เชมิด เพื่อครอสบอลจากริมเส้นเข้ากลาง
• หน้าเป้า (Striker): มาร์โก อาร์เนาโตวิช รับหน้าที่กองหน้าตัวเป้า พยายามใช้ประสบการณ์เก๋าเกมและการเคลื่อนที่ฉีกกองหลังโรมาเนียที่มีจังหวะถอยต่ำ

ออสเตรียน่าจะเล่นเกม ครองบอลสูง ใช้การขึงแดนกลางเพื่อเปิดพื้นที่ให้กองหน้าสอดขึ้น โอกาสจึงมาในรูปแบบจังหวะ 1-2 หรือเปิดริมเส้นให้ โอกาสได้ยิงจบจากระยะไกลก็เป็นทางรอดหากเจอแนวรับโรมาเนียตั้งรับลึก

ทีมชาติโรมาเนีย

โรมาเนียภายใต้โค้ช มิร์เชีย ลุเชสคู มักใช้ระบบ 4-3-3 แต่พร้อมขยับเป็น 4-2-3-1 หากต้องเจอทีมที่ครองบอลดีกว่า

• แนวรับ (Back Four): นิโคเลตา ป๊อปสกู, คริสเตียน เบิร์ก้า, โรบิน รัตยิว และ ชิป็อช เชเปอนิค ยืนประจำเพื่อป้องกัน จังหวะเสียบอลกลางสนาม
• แดนกลาง (Midfield): ราซวาน มาริน คุมเกมร่วมกับ ดาริอุส โอลารู ในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวสองคน เพื่อรับหน้าที่ตัดเกมและกระชากบอลต่อจังหวะให้กองหน้า ส่วนจอร์จินโย่ ไวนัลดุม จะหยอดบอลรุก หรืออาจสลับได้ในกรณีเจอแท็คติกกดสูง
• แดนหน้า (Forwards): วาดิม ราติว, โดรุก ฮาจิ และ ดาเนียล บิรลิเกอา จะเป็นสามประสานในแนวหน้า โอกาสจบสกอร์มาจากความเร็วของปีกสองข้าง และเทคนิคลูกครอสให้กองหน้าตัวเป้าเจาะเม็ดตาข่าย

โรมาเนียน่าจะเน้น รัดกุม วินัยสูงในเกมรับ แล้วค่อยสวนกลับตรงช่องกลาง เพราะจะยากที่พวกเขาจะครองบอลต่อเนื่องกับออสเตรียที่คุมลูกได้ดี จุดสำคัญอยู่ที่การปิดพื้นที่ให้ มาร์โก อาร์เนาโตวิช ไม่ได้พักบอล เเละคอยสอดขึ้นเติมเกมรุก จากการจ่ายทะลุช่องของราซวาน มาริน เพื่อสร้างโอกาสจบแบบ 2 จังหวะ หรือยิงไกลของ โอลารู เมื่อออสเตรียถอยเชิงรับต่ำ

ผลการแข่ง 10 นัดล่าสุดที่เคยพบกัน

1. 14 ตุลาคม 2020: โรมาเนีย 0-1 ออสเตรีย (ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก)
2. 7 กันยายน 2020: ออสเตรีย 2-3 โรมาเนีย (ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก)
3. 5 มิถุนายน 2012: ออสเตรีย 0-0 โรมาเนีย (กระชับมิตร)
4. 9 กันยายน 2009: โรมาเนีย 1-1 ออสเตรีย (ฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก)
5. 1 เมษายน 2009: ออสเตรีย 2-1 โรมาเนีย (ฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก)
6. 18 พฤศจิกายน 1987: ออสเตรีย 0-0 โรมาเนีย (ยูโร 1988 รอบคัดเลือก)
7. 10 กันยายน 1986: โรมาเนีย 4-0 ออสเตรีย (ยูโร 1988 รอบคัดเลือก)
8. 3 กันยายน 1972: โรมาเนีย 1-1 ออสเตรีย (กระชับมิตร)
9. 1 พฤษภาคม 1968: ออสเตรีย 1-1 โรมาเนีย (กระชับมิตร)
10. 16 ตุลาคม 1932: ออสเตรีย 0-1 โรมาเนีย (Central European Cup)

สถิติการพบกัน 10 ครั้งหลังสุดนี้ ออสเตรียชนะ 2, เสมอ 5, โรมาเนียชนะ 3

ผลการแข่งขัน 5 นัดล่าสุดของทั้ง 2 ทีม

ออสเตรีย (Austria)

1. 23 มีนาคม 2025: เซอร์เบีย 2-0 ออสเตรีย (ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก, เพลย์ออฟ เลกสอง) 
2. 20 มีนาคม 2025: ออสเตรีย 1-1 เซอร์เบีย (ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก, เพลย์ออฟ เลกแรก) 
3. 17 พฤศจิกายน 2024: ออสเตรีย 1-1 สโลวีเนีย (ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก)
4. 14 พฤศจิกายน 2024: คาซัคสถาน 0-2 ออสเตรีย (ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก)
5. 13 ตุลาคม 2024: ออสเตรีย 5-1 นอร์เวย์ (ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก)

ทีมชาติโรมาเนีย

1. 24 มีนาคม 2025: ซาน มารีโน 1-5 โรมาเนีย (ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก)
2. 21 มีนาคม 2025: โรมาเนีย 0-1 บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา (ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก)
3. 18 พฤศจิกายน 2024: โรมาเนีย 4-1 ไซปรัส (ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก)
4. 15 พฤศจิกายน 2024: โรมาเนีย 3-0 โคโซโว (ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก)
5. 15 ตุลาคม 2024: ลิทัวเนีย 1-2 โรมาเนีย (ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก)

คาดการณ์ผลการแข่งขัน

สกอร์ที่คาด: ออสเตรีย 2-1 โรมาเนีย

เหตุผลประกอบ

1. ความได้เปรียบในบ้าน: ออสเตรียลงเล่นใน Ernst Happel Stadion ซึ่งเป็นสนามขนาดใหญ่ ความคุ้นชินแผนที่เจ้าถิ่นใช้จะส่งเสริมเกมรุก และเสียงเชียร์จะกดดันแนวรับทีมเยือน
2. ผลงานล่าสุดในเนชั่นส์ ลีก: แม้เพลย์ออฟจะสะดุด แต่ก่อนหน้านั้นออสเตรียไม่แพ้ใคร 4 จาก 5 นัดล่าสุด (ชนะ 3 เสมอ 1) แสดงให้เห็นว่าแท็คติกรังนิกเรียกฟอร์มคืนมาได้เร็ว
3. คุณภาพแนวรุก: มาร์โก อาร์เนาโตวิช และ มาร์เชล ซาบิตเซอร์ สร้างสรรค์เกมรุกได้หลากหลาย ทั้งลูกครอสและการยิงไกล ขณะที่โรมาเนียอาจประคองเกมรับไว้ก่อน แต่ตามไม่ทันความเร็วในการสวนกลับของออสเตรีย
4. แมตช์ที่สูสี: แม้โรมาเนียมีแนวรุกที่เฉียบคมอย่าง ราซวาน มาริน และ ดาริอุส โอลารู แต่การต้องเจอแนวรับสองแถวของออสเตรียที่เหนียวแน่น และความได้เปรียบการตั้งเกมในบ้าน ทำให้โอกาสบุกทะลวงมีน้อย จึงคาดว่าประตูของโรมาเนีย ๆ หนึ่งมาจากการสวนกลับหรือฟรีคิก แต่สุดท้ายออสเตรียจะเฉือนชนะในท้ายที่สุด

บทสรุป

ศึก ทีมชาติออสเตรีย พบ ทีมชาติโรมาเนีย ในศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม H ครั้งนี้ จัดอยู่ในชั้นแมตช์สำคัญที่ทั้งสองทีมต้องการคืบหน้าทางจิตวิทยาและคะแนนเพื่อโอกาสลุ้นเข้ารอบ ออสเตรียที่ใช้ Ernst Happel Stadion สร้างความแข็งแกร่งในสนามเหย้า มีแท็คติกจอดเบส-แปลงช่องต่อบอลเร็ว และกองหน้ายังคงแม่นเป้า ส่วนโรมาเนียจะเน้นเกมรับเหนียว รอสวนกลับจากแดนกลางเพื่อให้ มาริน หรือ โอลารู ยิงไกล แต่ด้วยคุณภาพขุมกำลัง ฟอร์มล่าสุด และความได้เปรียบในบ้าน ทำให้เชื่อว่าออสเตรียจะเป็นฝ่ายเฉือนชนะ 2-1 ไปได้ หากคุณชื่นชอบ บทวิเคราะห์ที่ละเอียดเจาะลึก ทั้งแท็คติก สถิติ และเรื่องราวเบื้องหลัง อย่าลืมติดตาม มี๊บีม ผู้เชี่ยวชาญฟุตบอลที่พร้อมจะพาคุณไป สัมผัสทุกมิติของเกมเตะรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2026 ทุกคู่ ทุกกลุ่ม บนเว็บไซต์ monggame.com และโซเชียลมีเดียของเรา  รับรองว่าคุณจะได้ข้อมูล เชิงลึก เป็นกันเอง และสนุก เหมือนนั่งวิเคราะห์เคียงข้างในสนาม เพราะฟุตบอล ไม่ใช่แค่เกม แต่คือเรื่องราวที่เราจะวิเคราะห์ไปด้วยกัน