12/10/2025

MongGame.com

เกาะติดทุกเกมฟุตบอล พร้อมบทวิเคราะห์เจาะลึก กับมุมมองที่เหนือกว่า

วิเคราะห์ก่อนเกม: แอธเลติก บิลเบา พบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยูโรปา ลีก

วิเคราะห์ก่อนเกม: แอธเลติก บิลเบา พบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยูฟ่า ยูโรปา ลีก

วิเคราะห์ก่อนเกม แอธเลติก บิลเบา พบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ก่อนที่แฟนบอลทั่วโลกจะได้ฟังเสียงนกหวีดเริ่มเกม รอบรองชนะเลิศ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก นัดแรก ระหว่างแอธเลติก บิลเบา กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะจัดขึ้นที่ สนามซาน มาเมส ในบิลเบา สเปน ซึ่งถูกยกให้เป็นสนามจัดการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศด้วยหากเจ้าบ้านผ่านเข้าถึงเกมสุดท้ายแมตช์นี้จะลงเตะในวัน พฤหัสบดีที่ 1 พฤษภาคม 2025 โดยเริ่มแข่งขันเวลา 21:00 น. ตามเวลาเซ็นทรัลยุโรป (CET) ซึ่งตรงกับเวลา 02:00 น. ของวันที่ 2 พฤษภาคม 2025 ตามเวลาประเทศไทยความสำคัญของเกมนี้อยู่ที่ทั้งสองทีมต่างมีเป้าหมายชัดเจน แอธเลติก บิลเบา ในฐานะเจ้าบ้านไม่เพียงแต่ต้องการสร้างความได้เปรียบก่อนออกไปเล่นนัดเยือนที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด แต่ยังหมายมั่นจะใช้บรรยากาศ “ถ้วยในบ้าน” เป็นแรงขับเคลื่อนสู่ถ้วยยุโรปในเมืองของตัวเอง ขณะที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะเดินทางมาด้วยภารกิจเรียกความมั่นใจกลับมา หลังเพิ่งโชว์ฟอร์มดราม่าพลิกนรกจากการต่อเวลาชนะโอลิมปิก ลียง และหวังจะต่อยอดความแรงไปให้ถึงรอบสุดท้ายของรายการนี้ ด้วยโปรแกรมกลางสัปดาห์ที่ชนกับเอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ แมนยูฯ ยิ่งต้องบริหารจัดการขุมกำลังอย่างชาญฉลาดเพื่อรักษาความแกร่งในยุโรป ขณะที่บิลเบาได้พักเบรกลีกมาปรับจูนระบบแท็คติกเต็มที่ก่อนเกมใหญ่ แมตช์นี้จึงไม่ใช่แค่การชิงชัย 90 นาที แต่มันคือบททดสอบความลึกของขุมกำลังและคิดอ่านของกุนซือสองฝั่งที่จะส่งผลยาวไปถึงรอบชิงชนะเลิศที่ซาน มาเมส หากทั้งคู่ผ่านเข้าถึงได้สำเร็จ

ฟอร์มทีมล่าสุด

แอธเลติก บิลเบา

บิลเบายังคงโชว์ฟอร์มได้อย่างเหนียวแน่น โดยเฉพาะในเกมยุโรปที่เล่นอย่างมีวินัย เกมรับเสียประตูน้อยมาก และเกมรุกเริ่มมีความเฉียบคมมากขึ้น พวกเขาไม่แพ้ใครใน 3 นัดหลังสุด และเก็บชัยชนะเหนือเรนเจอร์สได้แบบไม่เสียประตู ถือเป็นช่วงที่ทีมกำลังมั่นใจสุดๆ โดยเฉพาะเมื่อเล่นในบ้านที่แฟนบอลหนุนหลังเต็มที่

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

แม้ผลงานในพรีเมียร์ลีกจะยังแกว่งๆ แต่ในเวทียุโรป แมนฯ ยูไนเต็ด กลับแสดงให้เห็นถึงความอันตรายในเกมรุก โดยเฉพาะในเกมที่ยิงลียงถึง 5 ประตูในนัดเดียว อย่างไรก็ตาม ปัญหาใหญ่คือเกมรับที่เสียประตูง่ายและขาดความสม่ำเสมอ ทำให้พวกเขายังต้องลุ้นทุกนัดว่าจะเจอ “แมนยูฯ วันไหน”วันฟอร์มเทพหรือวันพลาดง่าย

นักเตะเด่น

แอธเลติก บิลเบา

  • นิโก้ วิลเลียมส์: ฟิตสมบูรณ์หลังหายเจ็บ และทำไปแล้ว 11 ประตูในซีซั่นนี้ ถือเป็นตัวความหวังในแนวรุก
  • อูไน นูนเญซ: กัปตันทีมและหัวใจการยืนตำแหน่งเกมรับ ช่วยให้บิลเบาเสียประตูเพียง 26 ลูกในลา ลีกา (ดีที่สุดในลีก)

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

  • บรูโน่ แฟร์นานเดส: จอมเชื่อมเกมจากแดนกลาง จัดไป 5 ประตูและ 5 แอสซิสต์ในยูโรปา ลีก ฤดูกาลนี้
  • ราสมุส ฮอยลุนด์: แม้เพิ่งยิงได้ 4 ประตูในพรีเมียร์ลีก แต่เป็นคนตะบันตีเสมอบอร์นมัธในนาทีท้าย แสดงให้เห็นถึงความเฉียบขาดเวลาเฉียดฉิว

แท็คติกและจุดสำคัญ

  • แอธเลติก บิลเบา (4-2-3-1)
    กุนซือ เออร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ เน้นเสียบอลช้าในแดนตัวเองก่อนตั้งเกมโต้กลับรวดเร็ว และใช้ความแข็งแกร่งของกองกลางคู่กลางคอยตัดจังหวะ
  • แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (4-3-3 → 4-2-3-1)
    รูเบน อาโมริม จัดเกมเพรสซิ่งสูง และใช้ความแรงของกองกลางสองคนไล่บอลแดนบน ผสานกับสปีดริมเส้นในแนวรุก

ผลการพบกัน 10 นัดล่าสุด

ทั้งสองทีม ไม่เคยพบกัน ในเกมอย่างเป็นทางการมาก่อนหน้านี้ — การเจอกันครั้งนี้จึงเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่

ผลการแข่งขัน 5 นัดล่าสุดของทั้ง 2 ทีม

แอธเลติก บิลเบา

  1. 23 เม.ย. 2025: ชนะ ลาส ปัลมาส 1-0 (ลา ลีกา)
  2. 20 เม.ย. 2025: แพ้ เรอัล มาดริด 0-1 (ลา ลีกา)
  3. 17 เม.ย. 2025: ชนะ เรนเจอร์ส 2-0 (ยูโรปา ลีก)
  4. 13 เม.ย. 2025: ชนะ ราโย บาเยกาโน่ 3-1 (ลา ลีกา)
  5. 10 เม.ย. 2025: เสมอ เรนเจอร์ส 0-0 (ยูโรปา ลีก)​

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

  1. 27 เม.ย. 2025: เสมอ บอร์นมัธ 1-1 (พรีเมียร์ลีก)
  2. 20 เม.ย. 2025: แพ้ วูล์ฟแฮมป์ตัน 0-1 (พรีเมียร์ลีก)
  3. 17 เม.ย. 2025: ชนะ โอลิมปิก ลียง 5-4 (ยูโรปา ลีก)
  4. 13 เม.ย. 2025: แพ้ นิวคาสเซิล 1-4 (พรีเมียร์ลีก)
  5. 10 เม.ย. 2025: เสมอ โอลิมปิก ลียง 2-2 (ยูโรปา ลีก)

คาดการณ์ผลการแข่งขัน

บิลเบาได้เปรียบเรื่องเกมรับและเกมโต้กลับในบ้าน ขณะที่แมนยูฯ มักเหนื่อยล้าจากตารางแข่งขันอันแน่น และมีปัญหาเกมรับในลีก แมตช์แรกนี้จึงคาดว่า: แอธเลติก บิลเบา 1-0 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด — บิลเบาจะใช้จังหวะโต้กลับฉาบฉวย และปิดเกมรับได้สำเร็จ

บทสรุป

นัดแรกในบ้านคือโอกาสทองของบิลเบาในการสร้างความได้เปรียบ ก่อนยกพลไปลุยโอลด์ แทรฟฟอร์ดสัปดาห์หน้า แต่แมนยูฯ ก็มีทีเด็ดในแดนกลางและเกมโต้กลับที่พร้อมฉกโอกาสเสมอ อย่าพลาดการติดตามการวิเคราะห์หลังเกมและเกมเลกสองจากพวกเราได้ที่จะพาคุณเจาะลึกทุกประเด็นก่อนใคร