03/11/2025

MongGame.com

เกาะติดทุกเกมฟุตบอล พร้อมบทวิเคราะห์เจาะลึก กับมุมมองที่เหนือกว่า

วิเคราะห์ก่อนเกม: ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต พบกับ ลิเวอร์พูล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

วิเคราะห์ก่อนเกม: ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต พบกับ ลิเวอร์พูล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

วิเคราะห์ก่อนเกม ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต พบกับ ลิเวอร์พูล

นี่คือการพบกันในเกมยุโรปแบบ “หายากมาก” ของสองสโมสร—สถิติ H2H อย่างเป็นทางการระบุว่าเคยเจอกัน แค่ 2 นัด ยุคยูฟ่า คัพ 1972/73 เท่านั้น (ลิเวอร์พูลชนะ 1 เสมอ 1) ทำให้มิติแท็คติกและความสดของขุมกำลังยุคใหม่คือคำตอบของเกมนี้ลิเวอร์พูลกำลังต้องการหยุดสถิติแพ้รวด 4 นัด และเรียกความมั่นใจในถ้วยใหญ่ ส่วนแฟร้งค์เฟิร์ตต้องการใช้ความได้เปรียบในรังย้ำจังหวะเกมโต้กลับให้เฉียบคม วัน–เวลาแข่งขัน: พุธที่ 22 ตุลาคม 2025 เวลา 02:00 น. (ไทย) (คิกออฟท้องถิ่น 20:00 น. BST ของวันที่ 22 ต.ค.) ณ Deutsche Bank Park เมืองแฟร้งค์เฟิร์ต, เยอรมนี ข้อมูลเวลาคิกออฟยืนยันจากคู่มือถ่ายทอดสด/พรีวิวล่าสุดก่อนเกม

ฟอร์มทีมล่าสุด

ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต

  • ผลงาน 5 นัดหลังสุด (ทุกรายการ)
    19 ต.ค. เสมอ ไฟร์บวร์ก 2–2 (บุนเดสลีกา)
    4 ต.ค. แพ้ บาเยิร์น 0–3 (บุนเดสลีกา)
    30 ก.ย. แพ้ แอตฯ มาดริด 1–5 (UCL)
    27 ก.ย. ชนะ กลัดบัค 6–4 (บุนเดสลีกา)
    21 ก.ย. แพ้ อูนิโอน เบอร์ลิน 3–4 (บุนเดสลีกา)
  • โทนฟอร์ม: เกมรับเปราะช่วงทรานซิชั่น (เสีย 14 ประตูใน 4 นัดลีก/ยุโรปรวดช่วงปลาย ก.ย.–ต้น ต.ค.) แต่ศักยภาพสวนกลับและความคมในบ้านยังน่ากลัว

ลิเวอร์พูล

  • ผลงาน 5 นัดหลังสุด (ทุกรายการ):
    19 ต.ค. แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 1–2 (พรีเมียร์ลีก)
    4 ต.ค. แพ้ เชลซี 1–2 (พรีเมียร์ลีก)
    30 ก.ย. แพ้ กาลาตาซาราย 0–1 (UCL)
    27 ก.ย. แพ้ คริสตัล พาเลซ 1–2 (พรีเมียร์ลีก)
    23 ก.ย. ชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 2–1 (คาราบาว คัพ)
  • โทนฟอร์ม: จังหวะเข้าทำยังสร้างโอกาสได้มาก แต่ความเฉียบคม/สมาธิช่วงท้ายเกมและบอลเซ็ตเพลย์ฝั่งรับยังเป็นจุดต้องแก้

นักเตะเด่น

  • แฟร้งค์เฟิร์ต: แนวรุกคาดหวังจากตัวเป้าใหม่และวิงแบ็ก/ตัวรุกกว้างในระบบทรานซิชั่นเร็ว (ทีมเสียคีย์แมนอย่าง โอมาร์ มามูช ตั้งแต่ม.ค. 2025 และภายหลังเสีย ฮูโก้ เอกิติเก้ ให้ลิเวอร์พูลในตลาดล่าสุด ทำให้ต้องรีคอมโบเกมรุกใหม่)
  • ลิเวอร์พูล: ฮูโก้ เอกิติเก้ (ยกระดับมิติพักบอล/วิ่งตัดไลน์หลัง), โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โคดี้ กัคโป ยังเป็นตัวชี้ขาดชั้นคุณภาพในพื้นที่สุดท้าย; ข่าวทีมล่าสุดระบุ ไรอัน แกรมเบนเบิร์ช ไม่ได้เดินทางไปเยอรมนีเพราะข้อเท้าเดี้ยงเล็กน้อย

แท็คติกและจุดสำคัญ

  • แผนที่คาด
    • แฟร้งค์เฟิร์ต: 3-4-2-1 / 4-2-2-2 ยืดหยุ่น ตามสไตล์ของดิโน ท็อปเมอเลอร์ตั้งรับโซนต่ำ-กลาง แล้วแทงช่องเร็วไปพื้นที่ฮาล์ฟสเปซ/หลังไลน์ฟูลแบ็กคู่แข่ง
    • ลิเวอร์พูล: 4-2-3-1 ของอาร์เน่ สลอต—เพรสซิ่งจัดจ้าน, โอเวอร์โหลดปีกขวา (ซาลาห์) และการสลับตำแหน่ง 10/9 เพื่อเปิดช่องครอสคัตแบ็ก
  • ปมเกมรับ/รุก
    • แฟร้งค์เฟิร์ตเสียประตูมากจากทรานซิชั่นเร็วและลูกเซ็ตเพลย์เสาสองช่วงหลัง—ต้องระวังบอลครอส/คัตแบ็กของหงส์แดง
    • ลิเวอร์พูลต้องคมกว่าเดิมในจังหวะสุดท้ายและนิ่งกับบอลตั้งเตะเกมรับ หลังถูกลงโทษช่วงทดเวลามาหลายนัดล่าสุด (เชลซี, แมนฯยู)
  • ข่าวทีม/ความพร้อม: ลิเวอร์พูลยืนยัน แกรมเบนเบิร์ช ชวดเกมนี้ และมีรายงานกลุ่ม 21 คนที่บินไปแฟร้งค์เฟิร์ตแล้ว; วาตารุ เอนโดะ พร้อมคืนทีม

เฮดทูเฮด 10 นัดล่าสุดที่เคยพบกัน

  1. 26 ก.ย. 1972: แฟร้งค์เฟิร์ต 0–0 ลิเวอร์พูล — ยูฟ่า คัพ รอบแรก เลก 1
  2. 10 ต.ค. 1972: ลิเวอร์พูล 2–0 แฟร้งค์เฟิร์ต — ยูฟ่า คัพ รอบแรก เลก 2

ผลการแข่งขัน 5 นัดล่าสุดของทั้งสองทีม

แฟร้งค์เฟิร์ต

  • 19 ต.ค. 2025 — เยือน ไฟร์บวร์ก 2–2 (บุนเดสลีกา)
  • 4 ต.ค. 2025 — เหย้า บาเยิร์น 0–3 (บุนเดสลีกา)
  • 30 ก.ย. 2025 — เยือน แอตฯ มาดริด 1–5 (UCL)
  • 27 ก.ย. 2025 — เยือน กลัดบัค 6–4 (บุนเดสลีกา)
  • 21 ก.ย. 2025 — เหย้า อูนิโอน เบอร์ลิน 3–4 (บุนเดสลีกา)

ลิเวอร์พูล

  • 19 ต.ค. 2025 — เหย้า แมนฯ ยูไนเต็ด 1–2 (พรีเมียร์ลีก)
  • 4 ต.ค. 2025 — เยือน เชลซี 1–2 (พรีเมียร์ลีก)
  • 30 ก.ย. 2025 — เยือน กาลาตาซาราย 0–1 (UCL)
  • 27 ก.ย. 2025 — เยือน คริสตัล พาเลซ 1–2 (พรีเมียร์ลีก)
  • 23 ก.ย. 2025 — เหย้า เซาธ์แฮมป์ตัน 2–1 (คาราบาว คัพ)

คาดการณ์ผลการแข่งขัน

  • สกอร์ที่คาด: แฟร้งค์เฟิร์ต 1–2 ลิเวอร์พูล
  • เหตุผลหลัก
    • แม้ฟอร์มล่าสุดหงส์แดงจะเป๋ แต่โครงสร้างเพรสสซิ่ง/คอนโทรลเกมของสลอตยังสร้างโอกาสคุณภาพได้ สวนทางกับเกมรับแฟร้งค์เฟิร์ตที่เสียประตูเยอะในช่วงทรานซิชั่น 3–4 เกมหลังสุด
    • ข่าวทีมลิเวอร์พูลชัดเจนเรื่องการขาดแกรมเบนเบิร์ช แต่ได้มิดฟิลด์เชิงรับพร้อมใช้งานมากขึ้น—ช่วยบาลานซ์แดนกลางและป้องกันคอนเตอร์ในครึ่งหลัง
    • ประสบการณ์เกมยุโรปของแกนหลัก (ซาลาห์–ฟาน ไดค์) ยังเป็นตัวแปรสำคัญในเกมเยือน

บทสรุป

แม้จะเป็นการพบกันที่แทบไม่มีประวัติร่วมยุคใหม่ แต่ความต่างเชิงโครงสร้างเกมรับ-รุกกำลังชี้ไปที่ลิเวอร์พูล หาก “คมกริบ” กว่าที่ผ่านมา พวกเขามีลุ้นปลดล็อกในยุโรป ส่วนแฟร้งค์เฟิร์ตต้องเกาะจังหวะสวนและเซ็ตเพลย์ให้มีประสิทธิภาพนั่นคือกุญแจรอดแต้มในบ้านคืนนี้
ชอบบทวิเคราะห์แนวนี้ ฝากติดตามต่อที่ Monggame.com และคอมเมนต์สกอร์ที่คุณคาดด้านล่างได้เลย