12/10/2025

MongGame.com

เกาะติดทุกเกมฟุตบอล พร้อมบทวิเคราะห์เจาะลึก กับมุมมองที่เหนือกว่า

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฤดูกาล 2024/25 วิเคราะห์ผลงานและแนวทางอนาคต

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฤดูกาล 2024/25 วิเคราะห์ผลงานและแนวทางอนาคต

ผลงานฤดูกาล 2024/25

แมนฯ ยูไนเต็ด ทำผลงานไม่สม่ำเสมอในฤดูกาลนี้ และปัจจุบันจบอันดับกลางตาราง (อยู่อันดับ 14 มี 51 คะแนน จาก 34 นัด)​ ทีมยิงได้ 50 ประตู เสีย 46 ประตู ทำให้ผลต่างประตูได้เพียง +4 ซึ่งนับว่าต้องปรับปรุงเกมรับมากที่สุด ขณะที่ฟอร์มในเกมสำคัญมีทั้งช่วงดีและไม่ดี โดยหนึ่งในเกมที่แฟนบอลจดจำได้ คือการบุกไปเสมอบอร์นมัธ 1-1 ช่วงท้ายเดือนเมษายน หลัง ราสมุส โฮยลุนด์ ยิงประตูตีเสมอช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ทำให้เก็บแต้มคืนได้​เกมเยือนบอร์นมัธที่ จังหวะยิงตีเสมอท้ายเกมของ แมนฯ ยูไนเต็ด ทำให้เก็บหนึ่งคะแนนสำคัญได้​ อย่างไรก็ตาม แมนฯ ยูไนเต็ด พ่ายคาบ้านต่อ วูล์ฟส์ 0-1 เมื่อต้นเดือนเมษายน ทำให้แพ้ในลีกไปแล้วถึง 15 นัด (มากที่สุดในลีก) ผลที่ตามมาคือสถานะทีมอยู่ท้ายตาราง และทีมมีสถิติยิงประตูน้อยครั้งเมื่อเทียบกับโอกาส เช่น เกมนี้มีครั้งยิงเข้ากรอบเพียงครั้งเดียว​ แม้ทีมจะเข้าถึงรอบรองชนะเลิศยูโรปาลีก แต่ฟอร์มในพรีเมียร์ลีกยังต้องปรับปรุงทั้งเกมรับและการจบสกอร์

การตอบรับจากแฟนบอล

ภาพรวมผลงานของทีมในฤดูกาลนี้แบ่งให้แฟนบอลแสดงความคิดเห็นทั้งทางบวกและลบ สำหรับด้านบวก คอลัมน์ของ The Guardian รายงานว่าแฟนบอลเยือนยังส่งเสียงเชียร์อย่างกระหึ่ม พร้อมบรรเลงบทเพลงถึงอดีตตำนานสโมสรหลายคน เช่น แม็ตต์ บัสบี้, เวย์น รูนีย์, เอริค คันโตนา และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แม้อีกมุมหนึ่งบรรยากาศโดยรวมจะดูหม่นหมองไปบ้าง ในขณะเดียวกันก็มีแฟนบอลจำนวนหนึ่งแสดงความไม่พอใจต่อสถานการณ์ปัจจุบัน เช่น การเดินขบวนใส่ชุดสีดำ (Black March) ที่หน้าสนามก่อนเกมพบอาร์เซนอล เพื่อประท้วงเจ้าของสโมสร และการชูป้ายคัดค้านแผนของผู้บริหารใหม่​ นอกจากนี้บนโลกโซเชียลมีเดีย มักจะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ผลงานของทีม ทั้งแง่ลบเรื่องฟอร์มย่ำแย่และคำถามถึงแนวทางของสโมสร แต่ก็มีแฟนบางกลุ่มพยายามให้กำลังใจหันไปมองอนาคตที่ดีกว่า

ตำนานและยุคทองของสโมสร

แมนฯ ยูไนเต็ด ถือเป็นหนึ่งในสโมสรที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในอังกฤษ โดยปัจจุบันมีสถิติครองแชมป์ลีกสูงสุดรวม 20 สมัย (นับรวมทั้งยุคดิวิชัน 1 เก่าและพรีเมียร์ลีก)​ และเฉพาะในยุคพรีเมียร์ลีกตั้งแต่ปี 1992 เป็นต้นมา ทีมคว้าแชมป์ไปถึง 13 ครั้ง ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดเหนือสโมสรอื่น​ยุคทองที่แฟนบอลยังจดจำได้ดีคือช่วงการคุมทีมของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ในทศวรรษ 1990-2000 ซึ่งทีมคว้าแชมป์ลีก 5 สมัยในช่วง 1993–2003 พร้อมกับแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อีก 2 สมัย (1999 และ 2008) และแชมป์รายการอื่นๆ อีกหลายรายการ ความสำเร็จเหล่านี้ทำให้ประวัติศาสตร์ของสโมสรเป็นมรดกให้แฟนบอลจดจำเสมอ

แนวทางสู่ฤดูกาลหน้า

ขณะที่ฤดูกาลนี้ใกล้จบ สโมสรกำลังเตรียมแผนปรับปรุงทั้งทีมและโครงสร้างเพื่อกลับมาท้าชิงแชมป์อีกครั้ง หนึ่งในข่าวใหญ่คือแผนพัฒนาสนามกีฬาใหม่ ซึ่ง แมนฯ ยูไนเต็ด ประกาศว่าจะสร้างสนามแห่งใหม่ความจุ 100,000 ที่นั่งใกล้กับโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ปัจจุบัน โดยแบบจำลองเผยภาพลานกิจกรรมและพิพิธภัณฑ์ทีมใหม่ ท่ามกลางบรรยากาศแฟนบอลอย่างคับคั่ง​ (ภาพด้านบนแสดงการออกแบบจำลองภายในสนามใหม่ที่จะมีพิพิธภัณฑ์, Red Café และลานกิจกรรมสำหรับแฟนคลับ) แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเปิดแผนสร้างสนามกีฬาใหม่ความจุ 100,000 ที่นั่ง พร้อมเผยแบบจำลองที่มีพิพิธภัณฑ์และลานกิจกรรมแฟนบอลขนาดใหญ่ในแง่ฟุตบอลทีม ยังมีข่าวว่ากุนซือรูเบน อาโมริม ยังคงได้รับการหนุนหลังให้อยู่ทำทีมต่อ แต่จะมีการปรับขุมกำลังครั้งใหญ่ในช่วงซัมเมอร์นี้ โดยอาโมริมเผยว่ารู้แล้วว่าจะเก็บใครไว้และปล่อยใครออกจากทีม เรื่องการซื้อขายมีรายงานว่าสโมสรให้ความสนใจดึงตัว มัทเธอุส คูญ่า กองหน้าจากวูล์ฟส์ มาเสริมทีม ซึ่งนักเตะก็ให้สัญญาณต้องการย้ายมาร่วมทีม นอกจากนี้มีการรายงานถึงเป้าหมายคนอื่นๆ เช่น ลีอาม เดลาป (อิปสวิช) และ วิคเตอร์ โอซิมเฮน (นาโปลี) เป็นตัวเลือกในแนวรุก​ อาโมริมแสดงความมั่นใจว่าแมนฯยูฯ ยังเป็นสโมสรดึงดูดผู้เล่นชั้นนำได้ แม้ในฤดูกาลนี้ผลงานจะย่ำแย่​

นอกจากนี้ ทีมยังต้องแก้ไขจุดอ่อนสำคัญในฤดูกาลหน้า ทั้งการเสริมแนวรับให้แข็งแกร่งขึ้น และเพิ่มความคมในแดนหน้าเพื่อไม่พลาดโอกาส โดยเฉพาะการพยายามลดจำนวนประตูที่เสียไป. การคว้าแชมเปี้ยนส์ ลีกยุโรป (เช่น ถ้าคว้าแชมป์ยูโรปาลีกฤดูกาลนี้ได้) จะช่วยรับประกันตั๋วเข้าแข่งถ้วยใหญ่ในซีซั่นหน้า​ ทีมงานบริหารและโค้ชชุดปัจจุบันยืนยันว่าจะเดินหน้าต่อและพยายามสร้างแนวทางพัฒนาทีมอย่างต่อเนื่อง เพื่อบรรลุเป้าหมายยกระดับทีมกลับสู่การลุ้นแชมป์อีกครั้ง