
ปีศาจแดงหมดสภาพ แพ้เละเทะ 4-1 ในศึกพรีเมียรลีก
ในโลกฟุตบอล ไม่ใช่แค่ชัยชนะเท่านั้นที่เป็นเครื่องพิสูจน์ตัวตนของทีมใหญ่ บางครั้ง “ความพ่ายแพ้” ต่างหากที่เปลือยให้เห็นทุกอย่างชัดเจน และค่ำคืนที่เซนต์ เจมส์ พาร์ก ก็คือฉากหนึ่งของความพังพินาศที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องจดจำไม่ใช่แค่การเสีย 4 ประตู แต่คือการเสีย “ศรัทธา” ทั้งจากแฟนบอล ตัวนักเตะ และแม้แต่ในหมู่กันเอง กับฟอร์มที่ไร้แรงจูงใจ ระบบที่ไม่มีทิศทาง และข้อผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า พวกเขากลายเป็น “ปีศาจ” ที่ไม่มีเขี้ยวเล็บอีกต่อไปและขณะเดียวกัน นิวคาสเซิ่ลกลับแสดงให้เห็นถึงพลัง ความพร้อม และความกระหายแบบที่ทีมระดับหัวตารางต้องมี เกมนี้จึงไม่ใช่แค่เรื่องของสามแต้ม แต่มันสะท้อนให้เห็นภาพใหญ่ของสองทีมที่กำลังเดินอยู่บนเส้นทางที่ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง ในค่ำคืนวันที่ 13 เมษายน 2025 ที่สนามเซนต์ เจมส์ พาร์ก แฟนบอลเจ้าถิ่นได้ฉลองชัยชนะอย่างสะใจกับผลงานอันยอดเยี่ยมของนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ที่เปิดบ้านถล่มแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปอย่างขาดลอย 4-1
วิเคราะห์แท็กติก: ความต่างที่ชัดเจน
นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด แม้จะขาดกุนซือ เอ็ดดี้ ฮาว ที่ป่วย แต่ผู้ช่วย เจสัน ทินดอลล์ ก็พาทีมเล่นด้วยความมั่นใจและมีระบบที่ชัดเจน การใช้แผน 4-3-3 เน้นการโจมตีจากริมเส้นและการเคลื่อนที่ของผู้เล่นแนวรุกอย่าง ฮาร์วีย์ บาร์นส์ และ อเล็กซานเดอร์ อิซัค ทำให้แนวรับของแมนฯ ยูไนเต็ด ต้องเจองานหนักตลอดเกม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของ รูเบน อโมริม เลือกใช้แผน 3-4-3 โดยมีการเปลี่ยนแปลงผู้เล่นถึง 5 คน เพื่อเก็บความสดสำหรับเกมยูโรปาลีกกับลียงในกลางสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนี้กลับทำให้ทีมขาดความต่อเนื่อง และแนวรับที่ไม่เคยเล่นร่วมกันมาก่อนก็แสดงให้เห็นถึงความไม่เข้าใจกันหลายครั้ง
จุดเปลี่ยนของเกม: ความผิดพลาดที่ไม่ควรเกิด
- นาทีที่ 24: อเล็กซานเดอร์ อิซัค กระดกบอลข้ามแนวรับให้ ซานโดร โตนาลี่ วอลเลย์เข้าไปอย่างสวยงาม
- นาทีที่ 37: แมนฯ ยูไนเต็ด ตีเสมอได้จากจังหวะสวนกลับที่ ดีโอโก้ ดาโลต์ แทงทะลุให้ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ยิงเข้าไป
- นาทีที่ 49: ติโน่ ลิฟราเมนโต้ เปิดบอลให้ ฮาร์วีย์ บาร์นส์ ยิงง่ายๆ เป็นประตูนำ 2-1
- นาทีที่ 64: นูสแซร์ มาซราวี ลื่นล้ม ทำให้ บาร์นส์ ฉกบอลไปยิงเป็นประตูที่สองของเขาในเกมนี้
- นาทีที่ 77: อัลตาย บายินดีร์ ผู้รักษาประตูมือใหม่ของแมนฯ ยูไนเต็ด จ่ายบอลพลาดไปติดหัว โชลินตอน ก่อนที่ บรูโน่ กิมาไรส์ จะยิงปิดกล่องเป็น 4-1
ฤดูกาลที่น่าผิดหวังของ “ปีศาจแดง”
ความพ่ายแพ้ในเกมนี้ทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แพ้ในพรีเมียร์ลีกถึง 14 นัดในฤดูกาลนี้ เทียบเท่ากับสถิติแย่ที่สุดของสโมสรตั้งแต่ฤดูกาล 1989-90 ทีมร่วงลงมาอยู่อันดับที่ 14 ของตาราง และมีแนวโน้มที่จะพลาดโควตายุโรปในฤดูกาลหน้า
ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ
รอย คีน อดีตกัปตันทีมแมนฯ ยูไนเต็ด วิจารณ์ทีมว่า “อ่อนแอทั้งร่างกายและจิตใจ” และตั้งคำถามถึงอนาคตของผู้จัดการทีม รูเบน อโมริม ขณะที่แฟนบอลหลายคนเริ่มเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในทีม
สรุป
นิผลการแข่งขัน 4-1 อาจดูเหมือนแค่ค่ำคืนที่เลวร้ายอีกหนึ่งนัดของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่หากมองให้ลึก มันคือสัญญาณเตือนที่ดังขึ้นเรื่อยๆ ว่า “โครงการอโมริม” อาจยังไม่ได้ไปไกลเท่าที่สโมสรและแฟนบอลคาดหวังการขาดความลงตัวในแผนการเล่น ปัญหาความผิดพลาดส่วนบุคคล และการตัดสินใจที่ดูขัดแย้งกับสถานการณ์จริงของทีม ล้วนสะท้อนถึงระบบที่ยังไม่แข็งแรงพอสำหรับการกลับมาเป็นทีมชั้นนำในทางตรงกันข้าม นิวคาสเซิ่ลกำลังเดินหน้าในทิศทางที่ถูกต้อง ด้วยทีมเวิร์ก วินัย และสปิริตที่แข็งแกร่ง ชัยชนะในเกมนี้ไม่ใช่แค่สามแต้ม แต่คือการประกาศศักดาอีกครั้งว่า พวกเขาคือหนึ่งในทีมที่พร้อมต่อกรกับทุกสโมสรในลีกสูงสุดฤดูกาลยังไม่จบ แต่สำหรับแมนฯ ยูไนเต็ด หากยังไม่เร่งหาคำตอบที่ถูกต้องและเร็วพอ ความฝันถึงฟุตบอลยุโรป และความเป็น “ทีมใหญ่” ที่แท้จริง อาจกลายเป็นเพียงเรื่องเล่าในอดีต
More Stories
โค้ชวังยิ้ม ไทย U23 ไล่ถลุงมองโกเลีย 6-0 เปิดหัวคัดเอเชียอย่างเร้าใจ
พรีเมียร์ลีกคึกคัก เปิดโพยดีลวันสุดท้าย ใครเสริมโหด ใครวืดน่าเศร้า
จากความหวังสู่ความห่วง ทำไมแมนฯ ยูไนเต็ด ยังหาฟอร์มไม่เจอในฤดูกาลใหม่