
สโมสรตำนานของฟุตบอลไทย
- ธนาคารกสิกรไทย (Thai Farmers Bank FC): สโมสรเก่าแก่ของไทย เคยคว้าแชมป์รายการสำคัญในระดับเอเชีย (คว้าแชมป์เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2 สมัย ปี 1994 และ 1995) ก่อนถูกปิดกิจการในปี 2000
- โรงงานยาสูบ (TTM FC): สโมสรฟุตบอลจากบริษัทโรงงานยาสูบ ก่อตั้งในปี 1963 เป็นหนึ่งในสโมสรที่เก่าแก่ที่สุดของไทย เคยคว้าแชมป์ไทยแลนด์พรีเมียร์ลีกปี 2005 และมีผลงานระดับทวีปเอเชียก่อนจะยุบทีมในปี 2015
- ธนาคารกรุงเทพ (Bangkok Bank FC): สโมสรยักษ์ใหญ่ของไทยช่วงแรก เคยเป็นแชมป์ไทยลีกสมัยแรกปี 1996–97 และเคยคว้าแชมป์ถ้วยต่างๆ มากมาย ก่อนถูกยุบทีมหลังตกชั้นในปี 2008
- อาร์มี่ ยูไนเต็ด (Army United FC): สโมสรของกองทัพบกไทย มีประวัติยาวนานเป็นหนึ่งในสโมสรที่เก่าแก่ที่สุดของเอเชีย เคยมีผลงานโดดเด่นในอดีต (เช่นเข้าชิงไทยลีก) แต่ได้ยุติกิจการในปี 2019 (สิ้นสุดการดำเนินงานหลัง 103 ปี)
สโมสรเหล่านี้ถือเป็น “ตำนาน” ของวงการลูกหนังไทย ทั้งผลงานระดับสูงในอดีตและความทรงจำของแฟนบอล (ส่วนใหญ่เป็นสโมสรที่ถูกยุบไปแล้วในปัจจุบัน)
จำนวนสโมสรไทยลีก 1 ฤดูกาลปัจจุบัน
ปัจจุบัน (ฤดูกาล 2024/25) ไทยลีก 1 มีสโมสรสมาชิกทั้งหมด 16 สโมสร. สำหรับฤดูกาลนี้ สโมสรที่ร่วมแข่งขัน เช่น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด, การท่าเรือ เอฟซี, บีจี ปทุม ยูไนเต็ด, เมืองทอง ยูไนเต็ด, สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด, หนองบัว พิชญ, ระยอง เอฟซี, ราชบุรี เอฟซี, พีที ประจวบ เอฟซี, สุโขทัย เอฟซี, ขอนแก่น ยูไนเต็ด, ลำพูน วอริเออร์, นครปฐม ยูไนเต็ด, นครราชสีมา และ อุทัยธานี เอฟซี ทั้งหมดจำนวน 16 ทีม
บทบาทในการผลิตนักเตะและส่งไปค้าแข้งต่างประเทศ
- ชลบุรี เอฟซี: สโมสรนี้ขึ้นชื่อว่าเป็น “โรงงานผลิตนักเตะ” ของไทย เนื่องจากอคาเดมี่เยาวชนของสโมสรเข้มแข็งมาก หลายคนแจ้งเกิดจากชลบุรีและกลายเป็นนักเตะทีมชาติไทย เช่น ธีรศิลป์ แดงดา และชนาธิป สรงกระสินธ์ ต่างเริ่มต้นจากที่นี่. จากงานวิเคราะห์พบว่า ชลบุรี เอฟซี ถือเป็นสโมสรที่ขึ้นชื่อเรื่องผลิตผู้เล่นเยาวชนฝีเท้าดีอย่างต่อเนื่องการมีระบบอคาเดมี่ที่แข็งแกร่งทำให้ชลบุรีส่งนักเตะไทยหลายคนไปค้าแข้งต่างประเทศได้มากเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ
- บีจี ปทุม ยูไนเต็ด (Bangkok Glass FC เดิม): สโมสรนี้พัฒนาระบบเยาวชนอย่างหนัก ตั้งแต่เปิดอะคาเดมี่และโรงเรียนฟุตบอลขึ้นในปี 2009 ถึงปัจจุบัน BGFC มีอคาเดมี่ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในระบบเยาวชนที่ดีที่สุดของประเทศ ยิ่งกว่านั้น บีจีได้จับมือกับสโมสรญี่ปุ่น (เชเรซโซ โอซาก้า) เพื่อพัฒนาเยาวชนร่วมกัน ผลจากการลงทุนด้านนี้ทำให้บีจีปทุมฯ ผลิตนักเตะคุณภาพ เช่น ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธนุพล แดงทอง ฯลฯ ที่ก้าวไปเล่นในเจลีกและลีกต่างประเทศ รวมถึงส่งผู้เล่นหลายคนไปต่างแดนผ่านการยืมตัวในแดนญี่ปุ่น
- บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด: นอกจากจะประสบความสำเร็จมากที่สุดในไทยลีกยุคปัจจุบันแล้ว บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาเยาวชนอย่างจริงจัง สโมสรได้สร้างอะคาเดมี่ที่ได้มาตรฐานสูง (เทียบได้กับหลายทีมในยุโรป ญี่ปุ่น หรือเกาหลีใต้) โดยมีหัวหน้าฝ่ายพัฒนาเยาวชน (คุณแอนดรูว์ ออร์ด) วางรากฐานให้เป็นหลักสากล. ระบบอคาเดมี่ที่มีคุณภาพสูงของบุรีรัมย์ช่วยผลิตนักเตะที่มีระดับทั้งร่างกายและทักษะหลายราย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ สุภโชค สารชาติ ที่เคยย้ายไปค้าแข้งในเจลีกญี่ปุ่น เป็นต้น
จากปัจจัยเหล่านี้ สโมสรกีฬาชั้นนำของไทยทั้งชลบุรี เอฟซี และ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด จึงมีบทบาทสำคัญในการ “ผลิตนักเตะ” ฝีเท้าดีระดับทีมชาติ และผลักดันให้แข้งไทยก้าวไปเล่นในลีกต่างประเทศเป็นประจำ ขณะเดียวกัน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ด้วยความพร้อมด้านระบบทีมและงบประมาณที่หนาแน่น ก็เป็นอีกสโมสรที่เน้นพัฒนาเยาวชนคุณภาพ ส่งผลให้นักเตะจากสโมสรเหล่านี้ได้โอกาสโลดแล่นในฟุตบอลอาชีพต่างแดนมากที่สุดของไทย
More Stories
โค้ชวังยิ้ม ไทย U23 ไล่ถลุงมองโกเลีย 6-0 เปิดหัวคัดเอเชียอย่างเร้าใจ
พรีเมียร์ลีกคึกคัก เปิดโพยดีลวันสุดท้าย ใครเสริมโหด ใครวืดน่าเศร้า
จากความหวังสู่ความห่วง ทำไมแมนฯ ยูไนเต็ด ยังหาฟอร์มไม่เจอในฤดูกาลใหม่